ปชน.ชำแหละSmart Pier ถามสภาฯสร้าง'ท่าเรือโรงลิเก' คนไทยได้อะไร?
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ(วาระสอง)เป็นวันที่สอง
ที่ประชุมได้เข้าสู่มาตรา15 ในส่วนของงบกระทรวงคมนาคม โดยน.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายในส่วนของกรมเจ้าท่าว่า กรมเจ้าท่าซึ่งมีงบประมาณราว4พันล้านบาทจำนวนนี้แบ่งเป็นงบลงทุนที่สูงถึง3.2พันล้านบาทหรือร้อยละ77 เพื่อลงทุนในการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโครงข่ายคมนาคมทางน้ำทั่วทั้งประเทศ
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการSmart Pier เพื่อปรับปรุงก่อสร้างเพื่อพัฒนนาอำนวยความสะดวก บริเวณท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน13แห่งซึ่งใช้งบประมาณในปีนี้200ล้านบาทเศษ เฉลี่ยท่าละ15ล้านบาทเศษ ตนขอสนับสนุนโครงการนี้ที่กรมเจ้าท่ามีการปรับปรุงเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทรุดโทรม
รวมถึงท่าเรือที่ประชาชนใช้บริการมาเป็นเวลานาน ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้บริการในปี2567 ข้อมูลจากกรมเจ้าท่าพบว่า มีผู้โดยสารที่สัญจรทางน้ำเป็นจำนวน7.2ล้านคนตกวันละ2หมื่นคนต่อวันและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แต่จากการทำงบประมาณใน โครงการSmart Pier กลับพบว่า 1.กรมเจ้าท่ามีโครงการในลักษณะเดียวกันที่ดำเนินการมาก่อน บางโครงการก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ก็ปิดร้างเป็นเวลานาน เช่น ทางเรือบางโพ ท่าเรือราชินี ท่าเรือพายัพ เป็นต้น
ทำให้ขณะนี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมต้องสิ้นเปลืองงบซ่อมแซมจึงขอฝากไปยังกรมเจ้าท่า สร้างเสร็จแล้วควรมีการใช้งานที่เหมาะสมต่อไป
2.ตนมีข้อสังเกตในเรื่องการประเมินราคากลางและตั้งงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็นไม่สัมพันธ์ลักษณะการใช้งานของท่าเรือ เนื่องจากโครงการSmart Pier เป็นโครงการในลักษณะการรวมท่าเรือหลายท่าเข้าไว้เป็นโครงการเดียว
ทั้งนี้ขอตั้งคำถามประเด็นการกระจายงบประมาณในแต่ละท่าเรือเฉลี่ยท่าเรือละ15ล้านบาท แต่กลับพบว่า มีบางท่าเรือที่ได้รับงบประมาณมากกว่าท่าเรืออื่น
โดยท่าเรือที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด3อันดับแรกใน13ท่าเรือ กลับเป็นท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือสี่พระยา ท่าเรือพรานนก ซึ่งได้รับงบประมาณเพียง10ล้านเศษ ทั้งที่มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อวันมากที่สุด3อันดับแรก
ขณะที่บางท่าเรือที่เรือโดยสารไม่เคยจอด เช่นท่าเรือกรุงธน ท่าเรือเทพนารี ท่าเรือวัดเทพากร ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มาก กลับได้รับงบจัดสรรที่15ล้านบาทจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงหลักการและเหตุผลในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้ ยังไม่นับรวมการติดตั้งกล้องซีซีทีวีซึ่งใช้งบต่อท่าราว8แสน-1ล้านบาท
ขณะที่งบลงทุนอีกก้อนคือ โครงการก่อสร้างท่าเรือรัฐสภาและโรงเก็บเรือวงเงิน150 ล้านบาท ซึ่งมีลักษณะคล้าย "โรงลิเก" เป็นท่าเรือ2ฝั่งคือฝั่งสส.และฝั่งสว.เฉลี่ยงบฝั่งละราว51ล้านบาท
ตนเข้าใจว่าโครงการนี้จัดทำเพื่อรองรับสส.และสว.รวมถึงแขกบ้านแขกเมืองต่างประเทศมาเยี่ยมเยือน แต่เมื่อเทียบกับงบสร้างท่าเรือ13แห่งที่ประชาชนใช้ทุกวัน กลับมีงบประมาณมากกว่าถึง4เท่า ไม่แน่ใจว่าการของบดังกล่าวจะเหมาะสมตามจำนวนผู้ใช้งานหรือคำนวณผู้ใช้งานโรงลิเกนี้อย่างไร
เนื่องจากในปัจจุบันมีท่าเรือรัฐสภาที่อยู่ในฝั่งสว.รวมถึงท่าเรือเกียกกายซึ่งอยู่นอกพื้นที่รัฐสภาอยู่แล้ว
"รัฐสภาในฐานะสภานิติบัญญัติที่พิจารณางบประมาณของหน่วยงานอื่นควรเป็นตัวอย่างในการใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผล เน้นประโยชน์สาธารณะของประชาไม่ใช่เพื่อความสบายของผู้มีตำแหน่ง"
น.ส.ภัสริน กล่าวว่า วันนี้เราเห็นงบการลงทุนเป็นของคนไทยทุกคนจำนวนมหาศาลทุ่มไปกับท่าเรือสุดหรูเฉพาะค่าตกแต่งยอกเจดีย์มีมูลค่าสูงถึง9.790ล้านบาท
ขณะที่ท่าเรือเกียกกายที่อยู่บริเวณใกล้กันที่ประชาชนใช้งานกลับเป็นสนิมเกลอะกลังไม่มีร่มเงาหลบแดด ความปลอกดภัยในชีวิตไม่มี ฉะนั้นตนจึงหวังว่าเงินที่ลงทุนไปแล้วจะต้องได้อะไรกลับมา
จึงขอตั้งคำถามว่า เงินที่ลงไปในรายละเอียดสุดหรูกับยอดเจดีย์ละ10ล้านบาทและท่าเรือติดแอร์ ที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานจะยังมีไปเรื่อยๆหรือไม่ หรือเราจะได้อะไรกลับมา ตนยืนยันว่าเห็นด้วยกับการใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องที่ดีแต่การบริหารงานจะต้องมุ่งเน้นถึงความคุ้มค่าและประชาชนจะใช้ประโยชน์ได้จริง