โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

TouristDigiPay ปลดล็อกนักท่องเที่ยวใช้คริปโตแลกบาทเที่ยวไทย

SpringNews

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.ล.ต. ประกาศความร่วมมือกับกระทรวงการคลัง, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดตัวโครงการ "TouristDigiPay" อย่างเป็นทางการ

โครงการนี้คือพื้นที่ทดสอบนวัตกรรม (Sandbox) ที่จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาทดสอบ 18 เดือน

ทำความรู้จัก TouristDigiPay คืออะไร?

TouristDigiPay มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถแปลงสินทรัพย์เหล่านั้นเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศและสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการ "แลกเปลี่ยน" สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท ไม่ใช่การนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยตรง (Means of Payment) กระบวนการทำงานมีดังนี้

  • ยืนยันตัวตน : นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC/CDD) กับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ให้บริการ e-money ที่เข้าร่วมโครงการ
  • โอนและขาย : นักท่องเที่ยวโอนสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระเป๋าของตนเองมายังผู้ประกอบธุรกิจฯ ในไทย และสั่งขายเพื่อแลกเป็นเงินบาท
  • รับเงินบาทเข้า e-wallet : ผู้ประกอบธุรกิจฯ จะโอนเงินบาทที่แลกได้เข้าไปยังบัญชี e-money ของนักท่องเที่ยว
  • ใช้จ่ายผ่าน QR Code : นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายเงินบาทใน e-wallet กับร้านค้าทุกแห่งที่รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้ารายย่อย โดยร้านค้าจะได้รับเงินเป็นสกุลบาทตามปกติ

สำหรับเงินบาทที่เหลือในบัญชี e-money นักท่องเที่ยวสามารถแลกกลับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยจะถูกโอนกลับไปยังกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลใบเดิมที่โอนเข้ามาเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากระบบนิเวศเดิมที่มีอยู่แล้ว ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

โดยมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่รัดกุม เช่น การทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC/CDD) ตามเกณฑ์ของ ปปง. และการใช้เครื่องมือตรวจสอบบล็อกเชน (Blockchain forensic tools) เพื่อคัดกรองความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลที่โอนเข้ามา

ทั้งนี้ โครงการ TouristDigiPay จำกัดวงเงินใช้จ่ายกรณีความเสี่ยงต่ำไว้ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือนต่อคน โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 และจะมีการประเมินผลหลังสิ้นสุดโครงการเพื่อพิจารณาต่อยอดในอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

ส่อง ‘ธุรกิจลวดหนามหีบเพลง’ 600 ล้านบาท หลังทหารใช้กั้นชายแดน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"สร้างหนังสือนิทาน" ด้วย AI ใน Gemini ทำได้ง่ายๆแค่คำสั่งเดียว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ก.ล.ต. สั่งพักผู้แนะนำการลงทุนกรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ

Wealthy Thai

Dusit Central Park เผยความพร้อมของ Roof Park สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมต้อนรับทุกคน 3 กันยายน นี้

Wealthy Thai

ธอส. สานต่อ `คุณสู้ เราช่วย เฟส 2` ขยายระยะเวลาลงทะเบียนถึง 30 ก.ย.68 ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางมากขึ้น

efinanceThai

‘นฤมล’ ลุยปฏิรูปการศึกษา ดันสอบเข้าม.1/ม.4 ต้องมีวิชาประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง

The Bangkok Insight

จีนเงินทุนไหลออกทุบสถิติ พุ่ง 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์ในก.ค. หลังเปิดเสรีตลาด-มองระยะยาวหนุนเงินหยวนบนเวทีโลก

efinanceThai

4 เรื่องควรรู้เมื่อคิด ‘เกษียณเร็ว’

Wealth Me Up

เช็ก 5 อาหารสะเทือนไต กินบ่อยเสี่ยงไตพัง!!

The Bangkok Insight

'คลัง' มอง GDP ปี 68 ปัจจัยกดดันเยอะ เชื่อยังมีโอกาสโตเกิน 2%

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...