เรื่องเงินต้องรู้! ก่อนวางแผนมีลูกน้อย
ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
ใครที่กำลังจะ ‘สร้างครอบครัว-อยากมีลูก’ การวางแผนการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะสิ่งที่จะต้องตามมาอย่างแน่นอนก็คือ ‘ค่าใช้จ่าย’ ที่เพิ่มขึ้น
มาดูกันว่า…คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะต้องเตรียมตัววางแผนอย่างไรเพื่อต้อนรับเจ้าตัวน้อยกัน
ตรวจสุขภาพการเงิน
เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร จากนั้นให้ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้าว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมเกิดขึ้นบ้าง เช่น ค่าอาหารเสริมคุณแม่และเจ้าตัวน้อย ค่าฝากครรภ์ ค่าทำคลอด รวมไปจนถึงประเมินว่าในกรณีที่มีเจ้าตัวน้อย คุณแม่อาจจะมีช่วงที่ขาดรายได้ไปด้วย หรือคุณแม่หลายๆ คนก็ตัดสินใจออกมาเป็นคุณแม่เต็มตัว
ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์จนถึงช่วงอายุ 3 ปีแรกโดยเฉลี่ยจะต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 140,000–200,000 บาทต่อปี การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้เรารู้ว่าสถานการณ์ ณ ปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างไร มีเงินเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพื่อได้รู้ว่าจะนำเงินส่วนเกินไปลงทุนทำอะไรเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมได้บ้าง แต่ถ้าไม่เพียงพอจะได้ทำการประเมินค่าใช้จ่ายหรือหารายได้เพิ่มได้ทัน
บริหารความเสี่ยงให้พร้อม
- เงินสำรองฉุกเฉิน
ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินเก็บไว้อย่างน้อย 6 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหรือสำหรับคนที่กำลังจะมีเจ้าตัวน้อยควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อยสัก 12 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดโชคร้ายตกงานหรือรายได้ขาดหายไป ครอบครัวของเราก็ยังสามารถใช้ชีวิตต่อได้โดยไม่ขัดสนเรื่องเงิน จนกว่าจะหางานใหม่หรือรายได้กลับมาเข้าที่ได้อีกครั้ง
- การมีประกันอย่างพอเพียง
สำหรับตัวคุณแม่เองก็สามารถทำประกันคุ้มครองเรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วการจะทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองระหว่างคลอดด้วยจะมีระยะรอคอยก่อนทำประกัน 280 วัน หรือถ้าไม่ท้องก่อนทำประกันก็จะช่วยคุ้มครองระหว่างตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน
และหลังจากที่คลอดเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมศึกษาประกันของเจ้าตัวน้อยด้วย โดยทั่วไปแล้วจะสามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนขึ้นไป หรือบางบริษัทรับทำประกันตั้งแต่อายุ 15 วันก็มีเช่นกัน ทั้งนี้แนะนำให้ลองศึกษาเงื่อนไขการรับประกันของกรมธรรม์อย่างละเอียดก่อนทำประกันทุกครั้ง เพื่อหาแผนประกันที่ถูกใจและเหมาะสมกับความต้องการของเรามากที่สุด
ลดภาระหนี้
เพราะเมื่อมีสมาชิกครอบครัวที่มากขึ้น “รายจ่าย” ก็ยิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว การลดภาระหนี้ด้วยวิธีรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว ก็จะช่วยให้สภาพคล่องในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากหลายทางอีกด้วย
การแบ่งความรับผิดชอบทางด้านการเงินว่าส่วนใดใครเป็นผู้รับผิดระหว่างคุณพ่อคุณแม่ เปิดอกพูดคุยกันให้ลงตัวก่อนมีเจ้าตัวน้อยเสมอ ปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัวที่พบเจอบ่อยมากที่สุด คือ การไม่เปิดอกพูดคุยถึงสถานะทางการเงินกันอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่าย
เตรียมทุนการศึกษา
เราสามารถประมาณการล่วงหน้าได้ว่า ต้องการให้เจ้าตัวน้อยของเราเรียนที่ไหน โรงเรียนรัฐบาล เอกชน อินเตอร์สองภาษา ก็สามารถวางแผนได้ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะแตกต่างกัน คือ เรื่องของค่าเทอม โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเดินเข้าไปที่ฝ่ายการเงินของโรงเรียนที่เราต้องส่งให้เจ้าตัวน้อยเรียนเพื่อสอบถามค่าเทอม รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการเรียนเพื่อนำมาประกอบการวางแผนการเงินได้ นอกจากนี้ต้องอย่าลืมประเมิน “เงินเฟ้อ” ที่จะทำให้ค่าเทอมแพงขึ้นด้วยในทุกๆ ปี เพื่อที่จะประเมินให้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ใกล้เคียงที่สุด
เรื่องการวางแผนการเงินโดยเฉพาะเรื่องของการมีเจ้าตัวน้อย หลายคนอาจจะคิดว่ามีไปก่อนเดี๋ยวก็เลี้ยงไหวไม่เป็นไร แต่รู้กันหรือไม่ว่าเราสามารถวางแผนและบริหารจัดการเพื่อเตรียมสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ยิ่งเราสามารถวางแผนเพื่อรับมือได้ดีมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดความล้มเหลวหรือความผิดพลาดทางด้านการเงินที่อาจจะทำให้เงินไม่พอใช้ จนทำให้ต้องเป็นหนี้สินในอนาคตก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น