สรุปประชุมสุดยอด 'ทรัมป์-ปูติน' ยังไม่ได้ดีล อาจมีรอบต่อไปที่มอสโก
การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" และประธานาธิบดีรัสเซีย "วลาดิมีร์ ปูติน" ที่อลาสกา เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อมาหลายปี ได้จบลงแล้วพร้อมการขึ้นโพเดียมแถลงข่าวร่วมกันระหว่างผู้นำทั้งสองคน โดยทรัมป์ระบุว่า
"ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงกัน" แต่ก็มีความคืบหน้าหลังการเจรจายูเครนกับปูติน
"เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น" คือประเด็นสำคัญจากทรัมป์และปูตินตามที่ BBC รายงาน โดยทรัมป์และปูตินพูดคุยกันบนเวทีแถลงข่าวประมาณ 10 นาที ทั้งคู่ระบุว่ามีความคืบหน้าในการเจรจาพูดคุยกัน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่ชัดเจนได้
CNN ระบุว่า "ปูตินเป็นฝ่ายที่เริ่มแถลงก่อน" และพูดไปประมาณ 8 นาที ในขณะที่ทรัมป์ ซึ่งปกติแล้วเป็นที่รู้จักกันดีว่ามักจะแถลงข่าวที่ยาวนานและบางครั้งก็เป็นไปอย่างอิสระ กลับพูดเพียงประมาณ 4 นาที และทั้งสองลงจากเวทีเมื่อแถลงเสร็จโดยไม่มีการตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ทรัมป์พูดอะไร
ประเด็นสำคัญจากการแถลงของปธน.ทรัมป์ คือ เขาและปูติน “ได้บรรลุความคืบหน้าบางประการ” และมี “ความก้าวหน้าอย่างมาก” ในการประชุมทวิภาคีครั้งนี้ แต่เสริมว่า “จะยังไม่มีข้อตกลงใดๆ จนกว่าจะตกลงกันได้” (there’s no deal until there’s a deal) เขากล่าวว่า "มีการตกลงกันได้ในหลายประเด็น แต่ยังมีอีกไม่กี่ประเด็น" โดยเสริมว่า "ประเด็นหนึ่งสำคัญที่สุด" โดยไม่ได้ระบุว่าคืออะไร
“เรามีการประชุมที่มีประสิทธิผลอย่างยิ่ง และมีการตกลงกันในหลายประเด็น” ทรัมป์กล่าวพร้อมเสริมว่า “เรายังไม่ได้ไปถึงจุดนั้น แต่เรามีโอกาสสูงมากที่จะไปถึงจุดนั้น”
ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะโทรศัพท์ 2-3 สายหลังจากนี้เพื่อเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น โดยจะโทรหาองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในอีกสักครู่ และบุคคลต่างๆ ที่คิดว่าเหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เพื่อแจ้งเกี่ยวกับการประชุมวันนี้ด้วย ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา
ทรัมป์เสริมว่ายูเครนจะต้อง “เห็นชอบ” กับสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มาร์โก รูบิโอ รวมถึงสตีฟ วิตคอฟฟ์ และบุคคลอื่นๆ ในรัฐบาลของเขาได้หารือกับปูตินในวันนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกรอบความตกลงใดๆ
ทรัมป์แถลงปิดท้ายด้วยการกล่าวว่าเขา "อาจจะ" พบกับผู้นำรัสเซียอีกครั้งเร็วๆ นี้ ก่อนที่ปูตินจะตอบว่า "คราวหน้าไปมอสโก"
ปูตินพูดอะไร
ส่วนประเด็นสำคัญจากการแถลงของ "ปูติน" บนผืนแผ่นดินสหรัฐครั้งแรกในรอบมากกว่า 10 ปี และได้รับเกียรติให้พูดก่อนทรัมป์ที่เป็นเจ้าบ้าน คือ"ต้องขจัดสาเหตุหลักของสงคราม เพื่อให้ความขัดแย้งในยูเครนยุติลง"
“สถานการณ์ในยูเครนเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามขั้นพื้นฐานต่อความมั่นคงของเรา” ปูตินกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสกา "เราเชื่อว่าเพื่อให้การยุติความขัดแย้งเป็นไปอย่างยั่งยืนและยาวนาน เราจำเป็นต้องขจัดรากเหง้าและสาเหตุหลักของความขัดแย้งนั้น"
“ควรต้องพิจารณาข้อกังวลอันชอบธรรมทั้งหมดของรัสเซีย และฟื้นฟูสมดุลความมั่นคงที่เป็นธรรมในยุโรปและทั่วโลก และผมเห็นด้วยกับประธานาธิบดีทรัมป์ตามที่ท่านกล่าวไว้ในวันนี้ว่า ความมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครนเช่นกัน”
ในระหว่างการแถลงข่าว ปูตินยังได้อธิบายความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์ว่าเป็น "เรื่องธุรกิจ" และเห็นด้วยกับคำกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าของผู้นำสหรัฐที่ว่า สงครามจะไม่เกิดขึ้นหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2020
“แน่นอนว่าเราพร้อมทำงานในเรื่องนั้น และผมหวังว่าข้อตกลงที่เราได้บรรลุร่วมกันจะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายนั้น และจะปูทางไปสู่สันติภาพในยูเครน” ผู้นำรัสเซียกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญมอง 'ทรัมป์ไม่ได้แพ้ แต่ปูตินคือผู้ชนะ'
จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของปธน. ทรัมป์ เปิดเผยมุมมองถึงการประชุมครั้งนี้ว่า "ทรัมป์ไม่ได้แพ้ แต่ปูตินคือผู้ชนะอย่างชัดเจน"พร้อมเสริมว่า"ทรัมป์ไม่ได้อะไรกลับมาเลย นอกจากการพบปะกันมากขึ้น"
ทว่าในฝั่งของปูติน "ได้ก้าวไปอีกขั้นในการกอบกู้ความสัมพันธ์ ซึ่งผมเชื่อเสมอว่าเป็นเป้าหมายหลักของเขา" โบลตันกล่าว
"เขารอดพ้นจากการคว่ำบาตร เขาไม่ได้รับปากว่าจะหยุดยิง การประชุมครั้งต่อไปยังไม่กำหนด เซเลนสกีไม่ได้รับแจ้งเรื่องนี้ก่อนการแถลงข่าวครั้งนี้ มันยังห่างไกลจากจุดจบ แต่ผมคิดว่าปูตินได้บรรลุสิ่งที่เขาต้องการเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนทรัมป์บรรลุผลน้อยมาก" โบลตันกล่าว
ทรัมป์แย้มเจรจาธุรกิจ แต่ไม่ได้ระบุในแถลงข่าว
แม้ว่าในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันเป็นเวลาประมาณ 10 นาที จะไม่มีการพูดถึงดีลทางธุรกิจใดๆ แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน
"ผมสังเกตเห็นว่าเขา (ปูติน) พานักธุรกิจจำนวนมากมาจากรัสเซีย และนั่นเป็นเรื่องดี" ทรัมป์กล่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อวันศุกร์ "ผมชอบแบบนั้น เพราะพวกเขาต้องการทำธุรกิจ แต่เราจะไม่ทำธุรกิจจนกว่าจะยุติสงครามได้"
CNN ระบุว่า อันตัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย และคิริลล์ ดมิทรีเยฟ ผู้แทนเจรจาเศรษฐกิจอาวุโสและหัวหน้ากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการเจรจากับปูตินด้วย
"หากเรามีความคืบหน้า ผมจะหารือเกี่ยวกับ (โอกาสทางธุรกิจ) เพราะนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขาต้องการส่วนแบ่งจากสิ่งที่ผมสร้างขึ้นในแง่ของเศรษฐกิจ” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว