สหรัฐฯ เลิกยกเว้นภาษี ‘พัสดุขนาดเล็ก’ มูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลล์

วอชิงตัน, 29 ส.ค. ซินหัว รายงานว่า — สหรัฐฯ ยกเลิกการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับพัสดุที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,000 บาท) ในวันศุกร์ (29 ส.ค.) โดยช่วงเปลี่ยนผ่าน ระยะ 6 เดือน ผู้ส่งพัสดุต้องจ่ายภาษีศุลกากรระหว่าง 80-200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,600-6,480 บาท) ต่อพัสดุหนึ่งชิ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับประเทศต้นทาง

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ จะเริ่มต้นจัดเก็บภาษีศุลกากรมาตรฐานกับพัสดุนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงมูลค่าตั้งแต่ 00.01 น. ของวันศุกร์ (29 ส.ค.) ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT) ซึ่งเป็นการขยายมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยกเลิกการยกเว้นภาษีดี มินิมิส (de minimis) สำหรับพัสดุจากจีน

สินค้านำเข้าที่ส่งผ่านช่องทางอื่นนอกเครือข่ายไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ซึ่งมีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ และปกติได้รับสิทธิยกเว้นภาษีดี มินิมิส จะต้องเสียภาษีตามอัตราที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่วันศุกร์ (29 ส.ค.) เป็นต้นไป

ส่วนสินค้าที่ส่งผ่านระบบไปรษณีย์ระหว่างประเทศ พัสดุเหล่านั้นจะต้องเสียภาษีศุลกากรตามอัตราภาษีศุลกากรที่บังคับใช้กับประเทศต้นทาง หรือจ่ายภาษีศุลกากรระหว่าง 80-200 ดอลลาร์สหรัฐต่อชิ้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่าการยกเลิกการยกเว้นภาษีดี มินิมิส เป็นการเปลี่ยนแปลงถาวร

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (26 ส.ค.) สหภาพไปรษณีย์สากลประกาศว่ามีประเทศสมาชิก 25 แห่ง ได้ระงับการบริการจัดส่งพัสดุสินค้าสู่สหรัฐฯ โดยอ้างอิงเหตุผลจากความไม่แน่นอนของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์พิธีการศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ