ไม่อาจให้อภัย?
อารมณ์เด็กไม่ได้ดั่งใจก็จะประมาณนี้..
ก็..ประมาณตามที่ สส.รักชนก ศรีนอก พรรคประชาชน โพสต์.. “อนาคตของชาติ หากทำผิดพลาดเอาไปติดคุกให้หมด อย่าให้มันมีอนาคต ให้มันหลาบจำ
ส่วนพวกปิดสนามบินพวกที่เรียกรัฐประหาร พาประเทศไปสู่ทางตัน จนสังคมหลักนิติรัฐนิติธรรมของเราป่นปี้ดังเช่นทุกวันนี้นิรโทษกรรมมันซะ
ไร้มลทินแล้วก็ลงสมัคร สส. ต่อสมัยหน้าได้ ส่วนคนทำรัฐประหารฉุดรั้งความเจริญของประเทศไม่ให้ได้ไปไหนมา 10 ปี 20 ปี นิรโทษกรรมตัวเองไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ทุกวันนี้ก็ได้ดิบได้ดี เป็นองคมนตรีเสวยสุข วันนี้เรามีเสียงในสภาแค่นี้ เราทำได้เท่านี้ แต่อย่าคิดอย่าหวัง ว่าจะอยู่กันได้สบายๆ ไปตลอดชาติ”
นี่..ก็สืบเนื่องมาจากสภาฯ ตีตกร่างกฏหมายนิรโทษกรรมฉบับพรรคประชาชนนั่นแหละ ซึ่งก็ทำให้ท่าน สส.รักชนกถึงกับเก็บความอัดอั้นตันอุราไว้ไม่ไหว..
ได้ระเบิดอารมณ์แบบเด็กไม่ได้ดั่งใจ เล่นบท “อาฆาตแค้น” ออกมาเลยนะแม่หนู?
และที่ว่า.. “ทุกวันนี้ก็ได้ดิบได้ดี เป็นองคมนตรีเสวยสุข” นั้น ไม่ว่าจะพูดก่อนคิด หรือคิดก่อนพูด เห็นท่าจะได้อยู่สบายๆ ไม่ได้ซะแล้ว
นึกว่าโตขึ้น เป็น สส.ผู้ทรงเกียรติแล้ว พฤติกรรม-คำพูดจะเพลาๆ ลง ที่ไหนได้ ยังเก็บ-ซ่อนอารมณ์ คำพูดคำจาไม่ได้อยู่เหมือนเดิม..
เพิ่มเติม..คือ “เหิมเกริม” เกินเด็ก.. “..แต่อย่าคิดอย่าหวัง ว่าจะอยู่กันได้สบายๆ ไปตลอดชาติ”!
สงสัยจะจำขี้ปากของใครบางคนที่เคยพ่น.. “ถ้าตัวเองไม่มีความสุข อย่าหวังว่าใครจะมีความสุข” กระมัง?..
แล้วเห็นหรือยัง..นายคนนั้นมีความสุขไหมตลอดชีวิตนี้ และนี่ก็จะหนีเป็นสัมภเวสีอีกแล้ว รักชนกเอ๋ย!
เอางี้..เพื่อจิตใจจะได้สงบ ไม่คิดแค้นอาฆาตพยาบาท แนะให้ สส.รักชนกจินตนาการไปตามที่นายธนาพล อิ๋วสกุล บ.ก.สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โพสต์ท้ายข้อความ..
“ถ้าเกิดพรรคประชาชนชนะแบบแลนด์สไลด์จริงๆ เมื่อถึงเวลานั้นการเมืองของความเป็นไปไม่ได้ (นิรโทษกรรมคดี 112) จะกลายเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน” จะได้มีความหวัง!
หมายถึง..เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนกวาด สส.มาได้สัก 390 ที่นั่ง อย่าว่าแต่ “นิรโทษกรรมคดี 112” เลย จะพลิก-คว่ำแผ่นดินอย่างไรก็เชิญตามสิทธิ ตามที่สบายใจเถิด!
เอ้า..แต่กับเรื่องนี้ผมไม่ค่อยจะสบายใจ ก็ละคร “กลิ่นมาลี” ผลงานการกำกับของคุณใหม่-ภวัต พนังคศิริ ที่ข่าวว่าจะถูกเลื่อนฉายไปอย่างไม่มีกำหนดนั่นแหละ
ซึ่งเหตุผลที่เลื่อน หรือดี-ไม่ดีอาจกลบดินฝังไม่ออนแอร์ไปเลย ก็มาจากกรณีข่าวนอกใจแฟนของหนุ่ม “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เมื่อนานมานู้น
แต่ดูเหมือนผู้จัดฯ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จะยังหวั่นไหวต่อกระแสแอนตี้จากแฟนคลับและสังคมอยู่จึงเลยลังเลเก้ๆ กังๆ จนผู้กำกับต้องมาอธิบายให้นักข่าวฟัง..
“เราก็รอฟังจากผู้ใหญ่อยู่เหมือนกัน ว่าจะยังไง แต่ทุกอย่างตัดเสร็จเรียบร้อย พร้อมออกอากาศ แต่รอว่าผู้ใหญ่จะพร้อมฉายเมื่อไหร่ ตอนนี้ยังไม่ทราบกำหนดเลย
ถามว่ากังวลไหม แค่รู้สึกว่าถ้าไม่ได้ฉายจริงๆ หรืองดไปจริงๆ มันเสียดายงาน เพราะทุกคนตั้งใจทำ สำหรับผมคิดว่าได้ฉาย แต่สำหรับผู้ใหญ่ผมไม่รู้
ถ้าดูความตั้งใจของนักแสดงและทีมงาน น่าจะใจอ่อนให้ได้ฉายและคนดูยอมรับที่จะดู เชื่อว่าเวลาเป็นตัวแปรสำคัญครับ..
เรื่องโตโน่เราก็พูดยาก เพราะมันเป็นส่วนตัวของน้อง เราก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้โทษใครทั้งนั้น รู้ว่าบางอย่างถูกต้อง บางอย่างไม่ถูกต้อง แต่อยากให้แยกเรื่องส่วนตัวของน้อง”
ครับ..ผมเห็นใจผู้จัดฯ และผู้กำกับที่ทำงานกันมาด้วยความทุ่มเทเพื่อหวังให้แฟนละครได้รับความบันเทิง ความสุข แต่แล้วตัวเองกลับมา “แบกทุกข์” กับเรื่องที่ไม่ได้ก่อ
และแม้คนก่อคือคุณโตโน่ ตัวเอกของเรื่อง แต่นั่นก็เป็นความผิดพลาดส่วนตัวที่สามารถเกิดกับคู่รักคู่ไหนก็ได้ และป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าเขากับแฟนสาวได้กลับมาคืนดีกันรึยัง?
ซึ่งความจริงทางสถานี (ช่อง 3) ก็ไม่เห็นจะต้องวิตกกังวล หรือหวั่นไหวจนเกินไป หากละครเรื่อง “กลิ่นมาลี” เสร็จสมบูรณ์พร้อมแพร่ภาพได้แล้ว ก็อยากให้ปล่อยออกมาเถอะ
ผมว่า..ถ้าละครดี มีคุณภาพ สนุก (ซึ่งเชื่อฝีมือผู้กำกับ) ยังไงเสียคนดูก็ต้องติดตามดู ต่อให้เกลียด-เหม็นหน้าคุณโตโน่เข้าไส้ก็ตามที!
ที่พูดก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณโตโน่ และไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่ไม่อยากเห็นปัญหาคนคนเดียวมาเป็นเหตุให้คนอื่นต้องพลอยรับเคราะห์-เดือดร้อนไปด้วย
คนดู (ของฟรี) ก็อย่าอะไรให้มากนัก แยกแยะหน่อย ทำยังกับว่าตัวเองไม่เคยผิดพลาดในเรื่องใดๆ ในชีวิต..
จนไม่อาจให้อภัยใครได้..ปานนั้น!
สันต์ สะตอแมน