แพทย์รพ.ตำรวจ ยัน ‘ทักษิณ’ มีภาวะแทรกซ้อน ศาลเรียก ‘วิษณุ’ แจง 30 ก.ค.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ถนนราชดำเนินใน ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยสืบพยานต่ออีก 3 ปาก ได้แก่ พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ รอง พตร., พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์ (สบ 7), พล.ต.ท.สุรพล เกษประยูร ที่ปรึกษา รพ.ตำรวจ
ศาลเริ่มเบิกความพยานรายที่ 4 เป็นแพทย์ผู้ช่วยการผ่าตัดอาการบาดเจ็บของจำเลย และควบคุมดูแลการพักรักษาหลังการผ่าตัด โดยจำเลยได้รับบาดเจ็บระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และสอบถามเกี่ยวกับประเด็นใบรับรองของแพทย์เนื่องจากตามหลักฐานที่ศาลมี พยานรายดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อกำกับใบรับรองแพทย์ของจำเลย ซึ่งพยานให้การต่อศาลยืนยันในสองส่วนคือ ใบรับรองแพทย์เป็นการใส่รายละเอียดการป่วยโดยทั่วไปของจำเลยตามจริงเท่านั้น รวมทั้งไม่ทราบว่าใบรับรองแพทย์ดังกล่าวที่มีลายเซ็นตนเองนำไปใช้เพื่อการใด
พยานรายที่ 5 นายแพทย์อายุรกรรมเชี่ยวชาญด้านหัวใจ โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการเบิกความต่อศาลว่าทำการดูแล และให้คำปรึกษาจำเลยที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวเดิมที่มีประวัติการรักษาจากต่างประเทศ และดูแลอาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุของการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ส.ค.66 และให้คำปรึกษาอีกครั้งถึงความเสี่ยงระดับกลางของจำเลยที่อาจส่งผลต่อโรคประจำตัวในตอนที่เข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ความเห็นต่อศาลถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ และให้ข้อสังเกตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคของจำเลยต่อศาล
พยานรายที่ 6 เบิกความยืนยันว่าการตรวจรักษานายทักษิณ ตั้งแต่รักษาการบาดเจ็บ ซึ่งมีภาวะที่หากไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะส่งตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หลังจาก 7 วัน แต่ตัวนายทักษิณ เป็นผู้ที่มีอาการแทรกซ้อน จึงมีเหตุต้องให้รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล นอกจากนี้พยานรายที่ 6 ได้ยื่นเอกสารการรักษาตัวของนายทักษิณ
โดยศาลมีคำสั่งเลื่อนไปไต่สวนพยานบุคคลต่อในวันที่ 25 ก.ค. ตามที่นัดไว้เดิม โดยเป็นการนำแพทย์จากแพทยสภาเข้ามาเบิกความ 3 ปาก และอนุญาตให้จำเลยนำศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าไต่สวนในวันที่ 30 ก.ค.นี้