สื่อต่างชาติรายงานการเมืองไทยระส่ำ หลังศาลสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติงาน
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ลาออก จากกรณีคลิปสนทนากับฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชารั่วไหล โดยในคลิปดังกล่าว นายกฯ ไทยเรียกฮุน เซนว่า ลุง และตำหนิผู้บัญชาการทหารคนหนึ่ง สร้างความไม่พอใจและมีการยื่นคำร้องให้ขับเธอออกจากตำแหน่ง ซึ่งศาลกำลังพิจารณาคดีดังกล่าวอยู่ในขณะนี้
กรณีดังกล่าวอาจทำให้นางสาวแพทองธารสูญเสียอำนาจ ก่อนจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งบีบีซีรายงานว่า แพทองธารเป็นนักการเมืองรุ่นที่สามของตระกูลชินวัตร ตระกูลบทบาทในการเมืองไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเธอเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดของประเทศไทย และเป็นนายกฯ หญิงคนที่สองของประเทศ ขณะที่คนแรกคืออาของเธอเอง
ส่วนผลคะแนนความนิยมของแพทองธาร ร่วงลงเหลือ 9.2 % เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิ่งจาก 30.9 % เมื่อเดือนมีนาคม
CNN รายงานนายกฯ ไทยทำงานมาแค่ 10 เดือน
ขณะที่ซีเอ็นเอ็น สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีของไทยถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ในวันอังคาร และอาจถูกขับพ้นตำแหน่งจากคดีผิดจริยธรรมร้ายแรง หลังคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซนรั่วไหล
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ของไทย อายุ 38 ปี มีประสบการณ์การเป็นผู้นำประเทศเพียงแค่ 10 เดือน หลังเข้ามาแทนที่นายกฯ คนก่อน ซึ่งถูกถอดออกจากตำแหน่ง และการที่เธอถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ล่าสุดนี้ก็ยิ่งสร้างความไม่แน่นอนให้แก่ประเทศไทย ซึ่งเผชิญกับเหตุการณ์สั่นสะเทือนทางการเมืองมาตลอดหลายปี
รอยเตอร์สชี้ เพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลไทยที่เผชิญปัญหาหลายเรื่อง
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไทย จากคดีที่อาจทำให้เธอถูกขับออกจากตำแหน่ง และสร้างแรงกดดันให้แก่รัฐบาลไทย ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาหลายเรื่อง
คาดการณ์ว่า รัฐบาลไทยจะนำโดยรองนายกฯ ต่อ ขณะที่ศาลกำลังพิจารณาคดีของนางสาวแพทองธาร ซึ่งเธอจะยังคงอยู่ในคณะรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนใหม่ หลังมีการปรับครม.