TDRI ชี้ งานหนัก รอผู้ว่าธปท.คนใหม่ เสนอลดดอกเบี้ย บรรเทาหนี้ประชาชน
ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึกของTDRI ระบุว่า ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ต้องเผชิญกับภาวะที่ “ไม่ปกติ” โดยเฉพาะการที่ สหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มปรับขึ้นภาษีตอบโต้การค้า ซึ่งอาจกระทบกับสินค้าไทยรุนแรงกว่าที่คาดไว้ เดิม ธปท. ประเมินว่าไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีราว 18% แต่ TDRI ประเมินว่าอาจสูงเกิน 20% ซึ่งจะกดดันภาคการส่งออกให้ชะลอตัวอย่างมาก และกระทบเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนั้น การขยายตัวเศรษฐกิจ-รายได้คนไทย คือโจทย์ใหญ่ ผู้ว่าแบงก์ชาติต้องจัดการในช่วงที่เครื่องมือจำกัด TDRI เสนอว่า ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ควรใช้เครื่องมือเชิงนโยบาย เสนอใช้ 3 แนวทางหลัก – ชี้ดอกเบี้ยยังมีบทบาท
1.คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง.พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อบรรเทาภาระหนี้ของภาคประชาชน แม้อาจไม่ได้สะท้อนโดยตรงผ่านดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็ตาม
2.เน้นให้ดูแลค่าเงิน ไม่ให้แข็งค่ามากกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก
3.ประสานธนาคารเฉพาะกิจออก “ซอฟต์โลน” แบบช่วงโควิด-19 เพื่อป้องกันลูกหนี้เปลี่ยนสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) หรือเพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า
ดร.กิริฎา เน้นว่า การทำงานของผู้ว่า ธปท. ต้องอยู่ภายใต้ระบบคณะกรรมการ ไม่ใช่ One Man Show โดยจะต้องรับฟังจาก กนง. รองผู้ว่าการ และฝ่ายวิเคราะห์ต่างๆ ทั้งเตือนว่าแม้จะมีแรงกดดันจากรัฐบาลก็ต้องรักษาความเป็นอิสระของธนาคารกลาง แบงก์ชาติเป็นสถาบัน ไม่ใช่ตัวบุคคล ต้องกล้า และยึดหลักวิชาการเพื่อยืนหยัดภายใต้แรงกดดันทางการเมือง”
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส TDRI ให้ความเห็นว่า ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ควรให้ความสำคัญทั้งเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาว โดยมีภารกิจสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ส่งเสริมสินเชื่อรายย่อย-สตาร์ทอัพ-เทคโนโลยี ดูแลเงินบาทแข็งค่าผิดปกติ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ การเงินดิจิทัล การลงทุนต่างประเทศ ส่งเสริมDigital Assets อย่างมีหลักการ
ดร.นณริฏ ยังชี้ว่าระดับหนี้สาธารณะไทยสูงเกินสมควร ส่งผลให้สูญเสียโอกาสพัฒนาประเทศ จึงเสนอให้ ธปท. เข้ามามีบทบาทกลั่นกรองโครงการก่อหนี้ โดยเน้นว่า “หนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นไม่มีประโยชน์เท่าหนี้ที่ลงทุนสร้างศักยภาพระยะยาว
#ผู้ว่าแบงค์ชาติคนใหม่
#หนี้สาธารณะ