หุ้นไทยวันนี้ ปิดบวก 1,127.21 จุด สถาบันยืนหนึ่งซื้อสุทธิ 1.03 พันล้าน
ความเคลื่อนไหว หุ้นไทย วันนี้ (3 ก.ค.68) ดัชนี SET Index ปิดที่ระดับ 1,127.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.03% ในช่วงระหว่างวันดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,127.66 - 1,113.77 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 34,920.97 ล้านบาท
หากแบ่งมูลค่าตามประเภทนักลงทุน พบว่า กลุ่มสถาบัน เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสถานะซื้อสุทธิ 1,030.38 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนในประเทศ มีสถานะขายสุทธิรวมที่ 1,030.38 ล้านบาท แบ่งเป็น 139.61 ล้านบาท, 63.26 ล้านบาท และ 827.51 ล้านบาท ตามลำดับ
5 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด
- DELTA ราคา 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 4.76% มูลค่าซื้อขาย 2,513.07 ล้านบาท
- KBANK ราคา 155.50 บาท โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,655.42 ล้านบาท
- KTC ราคา 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.98% มูลค่าซื้อขาย 1,628.21 ล้านบาท
- BDMS ราคา 20.30 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.46% มูลค่าซื้อขาย 1,503.06 ล้านบาท
- ADVANC ราคา 280.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.36% มูลค่าซื้อขาย 1,461.03 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ว่า บรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยในวันนี้ (3 ก.ค.) มีทิศทางที่สดใสขึ้น โดยประเด็นการเมืองในประเทศแรงกดดันมีน้ำหนักที่ลดลง หลังจากรักษาการนายกฯ เข้าถวายสัตย์วันนี้ทำให้ ครม. ชุดใหม่เริ่มปฏิบัติงานได้ รวมถึงพรรคภูมิใจล่าสุด เผยว่าจะไม่ยื่นญัติไม่ไว้วางใจนายกฯ ลดความร้อนแรงเกมส์การเมืองในสภาได้บ้าง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงเชิงบวกจากความคืบหน้าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-เวียดนาม โดย "ทรัมป์" เผยว่า เวียดนามจะจ่ายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 20% สำหรับสินค้าทุกชนิด และหากมีการส่งผ่าน (Transshipping) จะจ่ายภาษีเป็น 40%
ขณะที่สินค้าที่สหรัฐฯ ที่ส่งออกเวียดนามไม่เสียภาษี การเก็บภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ถือเป็นการลดจากระดับภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เคยประกาศเดือน เม.ย. ที่ 46% กว่าครึ่งหนึ่ง
ส่วนบ้านเราที่วันนี้ติดตาม คณะเจรจาไทยหารือข้อเสนอภาษีกับสหรัฐฯ ช่วง 21.00 น. ประเมินว่าหากไทยสามารถลดภาษีลงมาในระดับ 10-20% (เดิมสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ไทย 36%) ถือเป็นระดับที่ไม่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเวียดนามและจีน (จีนถูกเก็บ 55%) พร้อมกันนี้ หากมีการใช้ภาษีส่งผ่าน (Transshipping) คาดช่วยลดปัญหา เรื่องการสวมสิทธิ์จากจีนได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์หากมีความคืบหน้าเจรจาการค้า คือ กลุ่มนิคม WHA กลุ่มส่งออก CCET GFPT ขณะที่ประโยชน์ทางอ้อม หากสหรัฐฯ สามารถเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ ได้คาดบวกต่อกลุ่มพลังงาน PTTEP SPRC กลุ่มโรงไฟฟ้า (ประโยชน์ทางอ้อมจาก FED ลดดอกเบี้ยง่ายขึ้น) CKP BCPG