บีโอไอ โชว์ศักยภาพไทย รับนักลงทุนไฮเทคจากสิงคโปร์ 200 คน
นักลงทุนสิงคโปร์ 200 คน ยกทัพเยือนไทย ‘บีโอไอ’ ร่วมจัดงานใหญ่ โชว์ศักยภาพไทย รับทุนไฮเทค พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านดิจิทัลและพลังงานสะอาดในภูมิภาค
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซีอีโอสภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) ในงาน Singapore Regional Business Forum ครั้งที่ 9 เพื่อประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดงานนี้ในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สิงคโปร์
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ และการท่องเที่ยว พร้อมมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวร่วมกัน เชื่อมโยงโอกาสการลงทุนระหว่างสองประเทศ
โดยผสานจุดแข็งของสิงคโปร์ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี เงินทุน และเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก ขณะที่ไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซัพพลายเชน พื้นที่รองรับอุตสาหกรรม พลังงานไฟฟ้า รวมทั้งศักยภาพด้านพลังงานสะอาด ที่สามารถรองรับการสร้าง Green Supply Chain ร่วมกัน เพื่อให้นักลงทุนทั้งไทยและสิงคโปร์ เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้
“ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมใหม่ในภูมิภาค เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมถึงธุรกิจดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยจุดแข็งและความพร้อมของไทย ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ไฟฟ้าที่มีความเสถียรและมีศักยภาพด้านพลังงานสะอาด ซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง บุคลากรที่มีคุณภาพ”
นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและมาตรการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวมทั้งตลาดที่มีศักยภาพ ทั้งตลาดภายในประเทศและเป็นประตูสำคัญสู่ตลาดใหญ่ทั่วโลกผ่านข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) รวมถึงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ครอบคลุมประชากรถึง 30% ของโลก
บีโอไอ ร่วมกับสภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) จัดงานใหญ่ Singapore Regional Business Forum ครั้งที่ 9 เพื่อประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดงานนี้ในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สิงคโปร์ โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายตัน ซี เหล่ง รมว.แรงงาน และรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านพลังงานและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประธานร่วม
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายตัน ซี เหล่ง รมว.แรงงาน และรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านพลังงานและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นประธานร่วม มีนักธุรกิจชั้นนำและผู้บริหารภาครัฐจากสิงคโปร์ เดินทางมาเข้าร่วมงานกว่า 200 คน ทั้งยังมีผู้นําภาครัฐและเอกชนจากไทยและประเทศอื่นๆ เข้าร่วมงานด้วย รวมมากกว่า 450 คน จาก 25 ประเทศทั่วโลก
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานครั้งนี้สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาภูมิภาคสู่ความเจริญรุ่งเรือง โดยที่ผ่านมาไทยและสิงคโปร์มีพัฒนาการความร่วมมือกันในหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และยังครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมในอนาคตโดยเฉพาะด้านดิจิทัลและพลังงานสะอาด
“ปีที่ผ่านมาสิงคโปร์เป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในประเทศไทย และครึ่งแรกของปีนี้ มูลค่าการลงทุนจากสิงคโปร์ยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนในโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น SATS Food ผู้ผลิตอาหารสำหรับบริโภคบนเครื่องบิน และยังจัดตั้งศูนย์ R&D ในไทย บริษัท Oatside ผู้ผลิตนมข้าวโอ๊ตชั้นนำ และ CapitaLand ที่ร่วมกับบริษัทไทยพัฒนาศูนย์กระจายสินค้ามาตรฐานสูง”นายพิชัย กล่าว
ด้านนายตัน ซี เหล่ง กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและพัฒนาโอกาสใหม่ร่วมกัน ปัจจุบันเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในไทย แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืนทางธุรกิจร่วมกันเพื่อประชาชนของทั้งสองประเทศ เช่น โครงการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน และนวัตกรรมในการดูแลสุขภาพของคนไทย ทั้งยังมีการลงนามความร่วมมือในหลายด้าน เช่น อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค การค้าสินค้าเกษตร และการลดก๊าซเรือนกระจก
“โลกปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงและมีความซับซ้อนมากขึ้น ความร่วมมือทวิภาคีในระดับภูมิภาคจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวที่มีมูลค่ามหาศาล และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งสิงคโปร์และไทยมีแผนทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส ร่วมสร้างเศรษฐกิจในภูมิภาคที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายตัน ซี เหล่ง กล่าว
สำหรับสถิติการลงทุนจากสิงคโปร์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-มิ.ย.2568) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 1,099 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 8.1 แสนล้านบาท นำโดยอุตสาหกรรมดิจิทัล ประมาณ 4 แสนล้านบาท อิเล็กทรอนิกส์ 1.9 แสนล้านบาท ยานยนต์และชิ้นส่วน 6.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มีทั้งบริษัทสิงคโปร์ และบริษัทจากประเทศอื่นๆ ที่ลงทุนผ่านสำนักงานภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ โดยการลงทุนจากบริษัทสิงคโปร์ส่วนใหญ่อยู่ในกิจการดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ กิจการพัฒนาซอฟต์แวร์และดิจิทัลแพลตฟอร์ม กิจการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กิจการผลิตอาหารที่ใช้เทคโนโลยีสูง กิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กิจการโรงแรม และกิจการด้านโลจิสติกส์
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บีโอไอ โชว์ศักยภาพไทย รับนักลงทุนไฮเทคจากสิงคโปร์ 200 คน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th