โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจฝืด กำลังซื้อซบ ดันยอดขายบ้าน-แฟชั่น-รถมือ 2 บูม

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในปี 2568 จากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงต่อเนื่อง รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รายจ่ายกลับคงที่หรือสูงขึ้นในบางหมวด การเลือกซื้อ “สินค้ามือสอง” จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เห็นได้จากยอดขายสินค้ามือสองที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือสอง แฟชั่นแบรนด์เนมมือสอง รวมถึงรถมือสองที่ส่งสัญญาณเติบโต

ตลาดบ้านมือสองเติบโตอย่างชัดเจน สวนทางเศรษฐกิจ และแซงตลาดบ้านใหม่ โดยมีผลพวงมาจาก สถานการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งผู้บริโภคได้เห็นสภาพที่อยู่อาศัย สามารถเลือกทำเลใกล้แหล่งงาน ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบบ้านมือหนึ่ง

สะท้อนจากนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดบ้านมือสองขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคต้องการที่อยู่อาศัยราคาถูก อยู่ในเมือง เมื่อเทียบกับราคาหากเป็นบ้านใหม่นอกจากต้องออกไปอยู่นอกเมืองแล้วราคายังแพงกว่าหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับขนาดบ้านที่ใกล้เคียงกันที่สำคัญสภาพบ้านมือสองปัจจุบันเมื่อเทียบกับบ้านใหม่ ไม่ต่างกันมากเพราะส่วนใหญ่ มีคนจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนมือทั้งที่เข้าอยู่ได้ไม่นาน

สำหรับตลาดบ้านมือสอง มีสัดส่วนทั้งหมด 60% ของตลาดรวมทั้งมือหนึ่ง มือสอง เช่น ตลาดรวม 5แสนหน่วย ตลาดบ้านมือสองประมาณ 3 แสนหน่วย เป็นต้น

ด้านนายประวิทย์ อนุศิริ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดบ้านมือสอง เติบโตมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิดจนถึงปัจจุบันซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยสาเหตุที่ผู้บริโภคให้ความสนใจบ้านมือสอง นอกจากราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่งมากแล้ว สามารถเลือกอยู่ในทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวกใกล้แหล่งงาน นอกจากนี้สภาพใกล้เคียงบ้านมือหนึ่งเนื่องจาก มีการเปลี่ยนมือไม่นาน แต่ราคากลับถูกกว่าค่อนข้างมากและสามารถต่อรองได้

ทั้งนี้การขายบ้านมือสองจะเน้นคัดเลือกทรัพย์มาจากทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ของสถาบันการเงินที่ประเมินว่าจะขายได้ และทำเลที่มีศักยภาพทั้งกรุงเทพฯและจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั้งแนวราบและแนวสูง โดยมีตัวแทนขายผ่านการอบรมของสมาคมฯ เจาะตลาดทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งนี้กลุ่มของต่างชาติที่ติดต่อเข้ามาค่อนข้างมาก คือ เมียนมา ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และการสู้รบที่ต้องการย้ายมาอยู่อาศัยยังประเทศไทย และมองหาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่มองว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในตลาดแต่ละปี มีที่อยู่อาศัยประมาณ 1.2 ล้านหน่วย ซึ่งมือหนึ่งประมาณ 4 แสนหน่วยนอกนั้นจะเป็นบ้านมือสอง นอกจากนี้ตลาดบ้านมือสอง ยังได้อานิสงส์จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนลดจดจำนอง ปีที่ผ่านมาสำหรับ บ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทซึ่งช่วยลดภาระผู้บริโภคได้มากจากที่ต้องจ่ายค่าโอน 140,000 บาท เหลือ 700 บาท

ค่าจดจำนองจาก 70,000 บาท เหลือ 700 บาท รวมแล้วเสียค่าใช้จ่ายเพียง 1,400 บาท สำหรับบ้านราคา 7 ล้านบาท และปีนี้เช่นเดียวกัน เมื่อมีมาตรการลดค่าโอนจดจำนองเข้ามาช่วยจะช่วยให้ตลาดนี้เติบโตมากขึ้น โดยประเมินว่า บ้านมือสองเติบโตเฉลี่ยปีละ 30%

สอดคล้องกับ นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดบ้านมือสอง ขยายโตแซงบ้านใหม่ เนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีแต่ พฤติกรรมเปลี่ยน ไปซื้อบ้านราคาถูกลง โดยเฉพาะบ้านมือสองมากขึ้น

สะท้อนตัวเลข การสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ การโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส2/2568 พบว่าบ้านมือสองทุกระดับราคา มียอดโอนกรรมสิทธิ์ สูงถึง 101,304 หน่วย คิดเป็น 48% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด และยอดโอนกรรมสิทธิ์ ติดลบเพียง 11.1% ในขณะตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์บ้านใหม่ติดลบมากถึง15.8%

ขณะที่นายฮายาโตะ โมเทกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ สห (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหาร RAGTAG กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว แต่ตลาดสินค้ามือสองกลับเป็นโอกาสสำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มรัดเข็มขัดและมองหาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น จุดเด่นของ RAGTAG คือการนำเสนอสินค้าแบรนด์เนมและลักชัวรีมือสองกว่า 5,000 แบรนด์ ที่ผ่านการคัดสรรและตรวจสอบคุณภาพอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น เน้นความเป็นแฟชั่นตั้งแต่การคัดเลือกสินค้า การจัดวางในร้าน การบริการ ไปจนถึงการสื่อสารกับลูกค้า

ด้านนายโทรุ อิมาอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์และกลุ่มโคเมเฮียว (KOMEHYO) ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 78 ปี กล่าวว่า หลังจากที่โคเมเฮียว เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยจนปัจจุบันเปิดแล้ว 6 สาขา

ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค และมองว่าตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองในไทยยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะสินค้าเหล่านี้มีคุณค่าทางจิตใจและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดได้เปิดให้บริการสาขาที่ 7 ขึ้น ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้

ทั้งนี้เครือสหพัฒน์ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมมือสองของไทย โดยเริ่มเปิดให้บริการร้านโคเมเฮียว เมื่อ 6 ปีก่อน จนปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 7 สาขา เพื่อจำหน่ายแบรนด์เนมมือสองในกลุ่มสินค้านาฬิกา เครื่องประดับลักชัวรี ล่าสุดยังร่วมทุนกับ RAGTAG (แร็กแท็ก) เชนร้านแฟชั่นแบรนด์เนมมือสองจากญี่ปุ่น เปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ One Bangkok ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยแร็กแท็ก จะเน้นจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม กระเป๋า เสื้อผ้าหรู เป็นต้น ส่งผลให้ปัจจุบันเครือสหพัฒน์ เป็นเจ้าของแบรนด์เนมมือสองถึง 2 แบรนด์ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า

ด้านนางสาวธารารัตน์ อนุรัตน์บดี ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง Bagnifique.brandname กล่าวว่า ช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมมากขึ้น จึงทำให้เกิดการตกลงซื้อขายกันได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ทำให้มีการนำสินค้าแบรนด์เนมออกมาขายเป็น used หรือสินค้ามือสองเพื่อสร้างสภาพคล่องทางการเงินหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดให้กับเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้ง่าย

สำหรับตลาดสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมมือสองในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4 หมื่นล้านบาทในปี 2567 เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการรัดเข็มขัดของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าคุ้มค่า ประกอบกับกระแส “Circular Fashion” ที่เน้นความยั่งยืน และการที่แบรนด์ลักชัวรีจากต่างประเทศเข้ามาในไทยมากขึ้น

ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว รายงานว่า ตลาดรถมือสองครึ่งปีแรก (ม.ค.- มิ.ย.68) มีจำนวน 285,000 คัน ลดลง 10% โดยจำนวนรถยึดเข้ามาในลานประมูลน้อยลง ขณะที่รถหลายเซกเมนต์ขยับราคาสูงขึ้น

ด้านบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินี อย่างเป็นทางการ ยอมรับว่ายอดขายรถใหม่ปีนี้ ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ และเตรียมขยับขยายแผนไปยังรถมือสอง

นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ เรนาสโซ มอเตอร์ เปิดเผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจ และผู้คนไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย จากสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบันรวมถึงการลงทุน ที่ติดอยู่ในทรัพย์สินบางอย่างส่งผลให้ตลาดซูเปอร์คาร์ชะลอตัว รวมถึงการขยับเวลาการส่งมอบรถออกไปเป็นต้นปีหน้า ทำให้ยอดขายของลัมโบร์กินี ปีนี้ถือว่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี (ไม่นับรวมปีแรกที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่าย)

“ยอดขายลัมโบร์กินีปีนี้ คาดว่าจะทำได้ 28 คัน ถือว่าต่ำสุดจากที่เคยขายได้กว่า 70 คันต่อปี แต่ปี 2569 คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเป็น 50 คัน ในจำนวนนี้จะเป็นของ Lamborghini Temerario 20 คัน”

อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมเดินแผนรถใช้แล้ว Lamborghini Certified Pre-Owned เข้มข้นมากขึ้น เน้นสร้างการรับรู้ของแบรนด์ กับราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย พร้อมการรับประกันคุณภาพตามมาตรฐานของลัมโบร์กินี

“เราจะเพิ่มทุนหมุนเวียนสำหรับ Lamborghini Certified Pre-Owned จากเดิม 100 ล้านบาทต่อปี เป็น 200 ล้านบาทต่อปี เพื่อนำรถสภาพดีเข้ามาในพอร์ต พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจครบวงจร สนับสนุนการขายรถใหม่ และรักษาราคาขายต่อของรถ”

Lamborghini Certified Pre-Owned ต้องผ่านการตรวจสภาพ 153 รายการ พร้อมเช็กประวัติการเข้ารับบริการรายชื่อผู้ครอบครอง และการเปลี่ยนมือ ซึ่งรถในโปรแกรมนี้ มีโอกาสเป็นเจ้าของได้ในราคาไม่ถึง 20 ล้านบาท

นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนที่สำคัญ จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ทั้งจำนวนรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าสู่ตลาด ยอดขาย และการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

“จำนวนรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าสู่ตลาดในปี 2567 มีเฉลี่ยเดือนละ 25,000 คัน หรือประมาณ 300,000 คันต่อปี แต่ปี 2568 เหลือเฉลี่ยเพียงเดือนละ 18,458 คัน หรือลดลง 28%” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ก.ล.ต. ALL พร้อมอดีตผู้บริหาร หลังเผยข้อมูลเท็จ-ปกปิดข้อมูล

13 นาทีที่แล้ว

ผลสำรวจสุขภาพคนไทยล่าสุด 1 ใน 4 ป่วย 'เบาหวาน-ความดัน' ไม่รู้ตัว

19 นาทีที่แล้ว

เปิดรายชื่อ 4 ผู้สมัคร ชิงเก้าอี้เอ็มดีทอท.คนใหม่ ปวีณา จริยฐิติพงศ์ ตัวเต็ง

25 นาทีที่แล้ว

เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

30 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ลุยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในภูมิภาคอาเซียน

MATICHON ONLINE

"เผ่าภูมิ" คาดจีดีพีไทยปีนี้โตมากกว่าคาดร้อยละ 2.2

TNN ช่อง16

สรุปปมเดือดดุสิตธานี พี่น้องแบ่งมรดกไม่ลงตัว เซ็นทรัลกับดราม่าแทรกแซง

TODAY

เมืองไทยประกันชีวิต รับมอบเกียรติบัตร “ESG DNA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืน

BTimes

เปิดรายชื่อ 4 ผู้สมัคร ชิงเก้าอี้เอ็มดีทอท.คนใหม่ ปวีณา จริยฐิติพงศ์ ตัวเต็ง

ฐานเศรษฐกิจ

รอบทศวรรษ ! SC รุกคอนโดฯโลว์ไรส์ “โค้บบ์ ลาดพร้าว – สุทธิสาร” เจาะตลาดนิวเจน ราคาต่ำแสนบาทต่อตร.ม.

Manager Online

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ALL-อดีตผู้บริหาร ปมปกปิดข้อเท็จจริงในงบปี 65

PostToday

เซ็นทาราจัดโปรแรง “Tropic Wonders: Exclusive Flash Sale”มอบส่วนลดเพิ่มพิเศษ 20% ให้กับสมาชิก

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...