หมอทำคลอด ดึงทารกออกมาได้แค่หัว ตัวยังคาอยู่ในครรภ์แม่
เกิดเหตุสุดสะเทือนใจขึ้นที่ศูนย์อนามัยพินังโซรี จังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อหญิงรายหนึ่งเข้ารับการทำคลอด แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน ศีรษะทารกขาดออกจากลำตัว ขณะที่ช่วงตัวของเด็กยังคงอยู่ในครรภ์มารดา เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยจนกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคม และครอบครัวเรียกร้องคำอธิบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า เหตุเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบว่ามารดามีความดันโลหิตสูง จึงให้ยาลดความดัน แต่ระหว่างการทำคลอด ทีมแพทย์ตรวจพบว่าทารกไม่มีชีพจร และตรวจซ้ำถึง 4 ครั้งก็ยังไม่พบการเต้นของหัวใจ จึงสรุปว่าทารกเสียชีวิตในครรภ์ตั้งแต่ก่อนคลอด อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ไม่ได้แจ้งความจริงแก่ครอบครัวในทันที แต่แนะนำให้ย้ายไปทำคลอดที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของมารดา ทว่าครอบครัวปฏิเสธถึง 4 ครั้งและยืนยันให้ทำคลอดที่ศูนย์อนามัยแห่งนี้
ทารกที่เสียชีวิตมีน้ำหนัก 4.2 กิโลกรัม ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว เมื่อทารกเสียชีวิตในครรภ์ กระดูกจะเปราะกว่าปกติ อีกทั้งมารดาไม่สามารถออกแรงเบ่งได้เต็มที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีกดหน้าท้องจากภายนอก พร้อมกับดึงศีรษะของทารกเพื่อช่วยทำคลอด แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ศีรษะของทารกขาดออกจากลำตัว
แม้ภายหลังมารดาจะปลอดภัยและไม่ได้มีภาวะเลือดออกมาก แต่ครอบครัวตั้งคำถามว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาททางการแพทย์หรือไม่ พร้อมยืนยันว่า “เราแค่อยากรู้ว่าทำไมถึงเกิดความผิดพลาดที่น่าสลดใจเช่นนี้ ทำให้ศีรษะเด็กขาดตกลงพื้น แต่ร่างกายยังคาอยู่ในตัวแม่”
ด้าน ลิสน่า ปันจาอิตัน หัวหน้าชุดเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินจากสำนักงานสาธารณสุขเขตทานาห์ปุลี ชี้แจงว่า ขั้นตอนที่ทีมแพทย์ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานการแพทย์ทั้งหมด และเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อช่วยชีวิตมารดา ไม่ใช่ความผิดพลาดหรือความประมาทแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าหากครอบครัวต้องการดำเนินคดี ทางศูนย์ฯ ก็มีเอกสารและข้อมูลพร้อมสู้คดีแล้ว