สานพลังไทย-สวีเดน สู่ 'เมืองไม้ยั่งยืน' จังหวัดแพร่
สานพลังไทย-สวีเดน สู่ ‘เมืองไม้ยั่งยืน’ จังหวัดแพร่
เมื่อวันที่ 15-16 สิงหาคม 2568 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม โดย Thailand and Nordic Countries Innovation Unit (TNIU) ร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วน จัดงานเสวนา สานพลังไทย-สวีเดน สู่เมืองไม้ยั่งยืน จังหวัดแพร่ (“Jump-Start Wood City” From Local Empowerment to Global Partnerships) เพื่อหลอมรวมองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านการบริหารจัดการป่าไม้และอุตสาหกรรมไม้ยั่งยืนจากสวีเดนและไทย สู่จังหวัดแพร่ หนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านไม้เศรษฐกิจของประเทศ ที่มีวิสัยทัศน์พร้อมพัฒนา“แพร่แซนด์บอกซ์” เมืองไม้ยั่งยืนต้นแบบของไทย
งานนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือเวทีพัฒนาไทย-สวีเดนสู่ความยั่งยืน (Thailand-Sweden Sustainable Development Forum 2025) ครั้งที่ 5 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และเป็นครั้งแรกที่ได้เชื่อมความร่วมมือจากระดับโลกสู่ระดับท้องถิ่น ณ สถาบันนวัตกรรมป่าไม้จังหวัดแพร่
ตลอดทั้งสองวันมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน และผู้ชมทางออนไลน์แล้วกว่า 8,200 คน เปิดพื้นที่กลางสำหรับทุกภาคส่วนตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและภาคประชาสังคม มาร่วมหารือ สะท้อนความท้าทาย และโอกาสการเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมป่าไม้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในมิตินโยบาย กลไกทางการเงิน งานวิจัยและการศึกษา รวมถึงการขับเคลื่อน เศรษฐกิจภายใต้ผืนป่าด้วยนวัตกรรม ซึ่งภายในงาน หน่วยงานในภาคีได้มีการนำเสนอ 7 โครงการไอเดียนำร่องที่สามารถต่อยอดพัฒนาสู่โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศและภายในประเทศต่อไป
นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย ได้มีการร่วมจัดนิทรรศการ Wood Life Sweden “วิถีแห่งไม้สวีเดน” โดยนำเสนอ 40 ตัวอย่างการพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ในสวีเดนตั้งแต่งานขนาดเล็กถึงโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม-15 ตุลาคม 2568 ณ บ้านเขียว สวนรุกขชาติเชตวัน ศูนย์การเรียนรู้ด้านการป่าไม้ จ.แพร่
นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม กล่าวเปิดงานพร้อมเล่าถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันความร่วมมือไทย-สวีเดนด้านป่าไม้ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนนี้ได้มีการจัดงานสัมนาทางออนไลน์ นำผู้เชี่ยวชาญสวีเดนมาบรรยายที่ไทยในปี 2565 และนำคณะผู้นำขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไม้ในประเทศไทยศึกษาดูงานระบบนิเวศนวัตกรรมอุตสาหกรรมป่าไม้ของสวีเดนในปี 2566 สู่การต่อยอดเป็นโครงการวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคารไม้ในไทยที่กำลังดำเนินการในปัจจุบัน
การเดินทางมาถึงจังหวัดแพร่ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่เพิ่มมิติความร่วมมือเชื่อมโลกสู่ไทย และเชื่อมท้องถิ่นไทยสู่โลก (Local-Global) โดยมีจังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาเมืองไม้ เผยแพร่โมเดล“ตัดไม้ได้ป่า” และ ”ปลูกไม้เปลี่ยนเมือง” สู่พื้นที่ภาคเหนือและประเทศไทย เพื่อสร้างประโยชน์ สร้างรายได้ และรักษาจิตวิญญาณป่าไม้ไทยให้ยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น
ด้าน นายแพร์ ลินเนียร์ อุปทูตสวีเดนประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ป่าไม้คือกุญแจสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว โดยสวีเดนตั้งเป้าหมายก่อสร้างอาคารด้วยไม้เพิ่มขึ้นถึง 50% ภายในปี ค.ศ. 2030 และพร้อมแบ่งปันเทคโนโลยีและประสบการณ์กับไทย เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
“จังหวัดแพร่ มีฝันเล็กๆ ที่กำลังเดินทางสู่เป้าหมายใหญ่ ความฝันที่จะเป็นเมืองไม้ เมืองแห่งการศึกษา และธุรกิจไม้ครบวงจร” นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าว
ความร่วมมือด้านป่าไม้ไทย-สวีเดนมีรากฐานยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สานต่อจนถึงปัจจุบัน
งานเสวนาครั้งนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมืออย่างเข้มแข็งทุกภาคส่วนสู่เป้าหมายเดียวกัน โดยจังหวัดแพร่มีการหารือว่าจะเตรียมนำบรรจุประเด็น “เมืองไม้ยั่งยืน” ไว้ในแผนยุทธศาสตร์จังหวัด พ.ศ. 2571-2575 พร้อมพัฒนากลไกกลางในการมีส่วนร่วมของภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคการศึกษา-ภาคประชาชน เพื่อสร้างแพร่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจนวัตกรรมไม้ เมืองไม้ยั่งยืนต้นแบบของไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สานพลังไทย-สวีเดน สู่ ‘เมืองไม้ยั่งยืน’ จังหวัดแพร่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th