วายแอลจี จับตาพาวเวลชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด มองระยะยาวทองคำยังขาขึ้น
วายแอลจี แนะนำจับตาราคาทองคำ ในช่วงพาวเวล ประธานเฟด กล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งสุดท้าย บ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด มองระยะยาวทองคำยังขาขึ้น ได้ปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางทั่วโลกซื้อต่อเนื่อง
วันที่ 22 ส.ค. 2568 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่าแนะนำจับตาราคาทองคำ ในช่วงการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง โดยวันนี้ (22 ส.ค.) จะเป็นวันที่ 2 ของการประชุม ซึ่งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยสิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษที่จะกระทบต่อราคาสินทรัพย์การลงทุน คือ 1.อัตราเงินเฟ้อ 2.ตลาดแรงงาน 3.การทบทวนกรอบนโยบาย
โดยในส่วนผลกระทบต่อราคาทองคำ ต้องจับตาว่านายเจอโรม พาวเวล จะแสดงท่าทีกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อหรือตลาดแรงงานมากกว่ากัน เนื่องจากหากกังวลในภาวะเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่เร่งตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า อาจทำให้ตลาดตีความว่าเฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย และเป็นปัจจัยกดดันทองคำ แต่หากมีการแสดงความกังวลต่อตัวเลขการจ้างงาน (Non-Farm) ที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจน จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยเฟด และกลับมาเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเช่นกัน
ในขณะที่ ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเดือน ก.ย.ที่จะถึง นี้มีโอกาสกลับมาเป็นสัญญาณบวก เนื่องจากในท้ายที่สุดแล้ว ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดก็จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอยู่ดี โดยในการประชุมเฟดในวันที่ 16 – 17 ก.ย.นี้ ตลาดเทน้ำหนักส่วนใหญ่ว่าจะปรับลด 0.25% และจะทำการลดดอกเบี้ยรวมได้ 2-3 ครั้งในปีนี้
ทำให้วายแอลจี คาดการณ์ว่าในเดือนก.ย. อาจจะมีโอกาสเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่เช่น UBS ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำเป็น 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของ วายแอลจีที่ให้ไว้ที่ 3,600-3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ Goldman Sachs ได้คงคาดการณ์ราคาทองคำที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงกลางปี 2569
ในระยะยาวยังมีกระแส De-Dollarization ลดทอนบทบาทดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และ อีก 4 ชาติ ได้แก่ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งไทย) มาสนับสนุนราคาทองคำ
โดย กองทุนการเงินระหว่างประเทศไทย (IMF) รายงานว่า สัดส่วนของสกุลเงินดอลลาร์ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงเหลือ 57.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2537 สวนทางกับเทรนด์การเข้าซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจาก สภาทองคำโลก (World Gold Council) รายงานว่า ธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 15 ติดต่อกัน โดยในปี 2567 มีปริมาณการเข้าซื้อทองคำระดับ 1,045 ตัน และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ความต้องการทองคำสูงเกิน 1,000 ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยสิบปีที่ 473 ตัน
สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงระยะสั้นนี้ วายแอลจี มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 3,311-3,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านช่วงการประชุมแจ็กสัน โฮล ไปแล้วยังสามารถยืนอยู่ได้ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้งไปทดสอบแนวต้าน 3,352-3,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศมองเคลื่อนไหวในกรอบ 50,700-52,200 บาทต่อบาททองคำ
ส่วนนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการสะสมทอง และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย
สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย
สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วายแอลจี จับตาพาวเวลชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด มองระยะยาวทองคำยังขาขึ้น
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th