ดาวโจนส์พุ่ง 700 จุด ทุบสถิติใหม่ รับเฟดส่งสัญญาณ 'ลดดอกเบี้ย'
ดัชนี Dow Jones พุ่งทะยาน 732 จุด หรือ 1.6% ไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 45,512.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 1.2% และ Nasdaq Composite บวกเกือบ 1.3% ขานรับถ้อยแถลงของ "เจอโรม พาวเวลล์" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการ"ลดดอกเบี้ย"
ด้านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงประมาณ 0.07% ไปแตะ 4.26% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน
ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง พาวเวลล์กล่าวสุนทรพจน์ซึ่งถูกมองว่าเป็นท่าทีที่ "ค่อนข้างระมัดระวัง" โดยระบุว่า แม้อัตราการว่างงานของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ "ด้วยนโยบายที่มีข้อจำกัด แนวโน้มเศรษฐกิจพื้นฐาน และความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป อาจทำให้จำเป็นต้องปรับจุดยืนนโยบาย”
พาวเวลล์ยังระบุว่า “สมดุลความเสี่ยงกำลังเปลี่ยนทิศทาง” ระหว่างสองพันธกิจหลักของเฟด ได้แก่ การรักษาการจ้างงานเต็มศักยภาพ และการควบคุมเสถียรภาพราคา โดยชี้ถึง “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านนโยบายภาษี การค้า และการอพยพเข้าเมือง”
ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ล่าสุด ตลาดประเมินความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ที่ราว 91%
ปรับกรอบนโยบายใหม่
พาวเวลล์อธิบายว่า ภายใต้กรอบใหม่นี้ “เราได้ถอดภาษา (ข้อความเดิม) ที่ระบุถึงสภาวะดอกเบี้ยต่ำออกไป และกลับมาใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น พร้อมทั้งยกเลิกกลยุทธ์ ‘makeup’ ที่เคยใช้ในกรอบปี 2020” ซึ่งครั้งนั้นเป็นการปรับปรุงหลักการกำหนดนโยบายครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของเฟด
เขาย้ำว่า “ถ้อยแถลงที่ปรับปรุงใหม่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้แนวโน้มเงินเฟ้อระยะยาวยังคงอยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพันธกิจทั้งสองด้านของเรา”
การทบทวนกรอบการดำเนินนโยบายของเฟดครั้งนี้เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้ว โดยบันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) วันที่ 29–30 กรกฎาคม ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่าการปรับปรุงดังกล่าว “ถูกออกแบบให้มีความแข็งแกร่งต่อเศรษฐกิจภายใต้เงื่อนไขที่หลากหลาย”
นักกลยุทธ์ชี้ สัญญาณชัดลดดอกเบี้ยเร็วสุด ก.ย. นี้
อาร์ต โฮแกน หัวหน้ากลยุทธ์การตลาดจาก B. Riley Wealth ในนิวยอร์ก กล่าวว่า “ประธานพาวเวลล์สามารถสื่อสารได้ว่า ‘ดุลความเสี่ยง’ กำลังเปลี่ยนไป ดังนั้นการปรับเปลี่ยนนโยบายจึงอาจเหมาะสม นี่ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าพาวเวลล์พร้อมสนับสนุนการลดดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งน่าจะเป็นเดือนกันยายน และอาจรวมถึงตุลาคม และธันวาคมด้วย”
โฮแกนเสริมว่า จุดที่เฟดให้ความสำคัญคือ "การอ่อนแรงของตลาดแรงงาน มากกว่าความกังวลต่อราคาสินค้าหลักที่สูงขึ้นจากมาตรการภาษี" ดังนั้น "สารที่ชัดเจนไปถึงตลาดก็คือ การประชุมเดือนกันยายนจึงมีโอกาสสูงมาก"
ขณะที่ ไบรอัน เจคอบเซน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Annex Wealth Management ระบุว่า“เฟดจะไม่ทำตัวขวางโลก ประธานพาวเวลล์แสดงให้เห็นว่าเขาเปิดกว้างที่จะอ่านสัญญาณจากข้อมูล เฟดมองว่าความเสี่ยงด้านลบต่อตลาดแรงงานเพิ่มสูงขึ้น และแม้จะยังกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ แต่เฟดจะไม่ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงแนวโน้มเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไม่ได้ มากกว่าความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งเห็นชัดเจนแล้ว”