เตือนภัย กิน "ทุเรียน" คู่ "เหล้า" อันตรายถึงขั้นหมดสติ-เสียชีวิต
“กินทุเรียนกับเหล้า” แม้จะเป็นผลไม้ที่อร่อยจนหยุดไม่ได้ แต่การกินทุเรียนต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะเมื่อกินคู่กับเหล้า เพราะสารบางอย่างในทุเรียนจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของร่างกาย จนอาจทำให้เกิดอาการร้อนใน, หมดสติ, หรือร้ายแรงที่สุดคือหัวใจวาย
กินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์ทำให้หมดสติได้ เป็นจริงในการเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก เพราะจะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้ ทำให้เสี่ยงต่อการหมดสติได้ ข้อแนะนำหากกินทุเรียนควรมีระยะห่างกับการดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 6 ชั่วโมง
แอลกอฮอล์มีฤทธิ์เป็น สารกดระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System Depressant) หมายความว่า มันจะไปชะลอการทำงานของสมองและระบบประสาททั้งหมด เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมากและรวดเร็ว ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้ทัน ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อสมองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุม
การรู้สึกตัว (Consciousness) เมื่อสมองส่วนนี้ถูกกดอย่างรุนแรง จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม ซึมเศร้า และในที่สุดก็หมดสติหรือเข้าสู่ภาวะโคม่าได้ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย (Temperature Regulation) แอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนได้ง่าย นำไปสู่ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (Hypothermia) ซึ่งอาจทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิต
การควบคุมการทำงานของหัวใจ (Heart Rate Regulation) อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือช้าลงได้
ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (Alcohol Poisoning) การหมดสติเป็นสัญญาณที่ร้ายแรงของภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปในเวลาอันสั้น ร่างกายไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้ทัน ทำให้เกิดการสะสมของแอลกอฮอล์และสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ในร่างกาย
ทั้งนี้ กินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เกิดอาการหมดสติได้ง่ายเพราะ สารกำมะถันในทุเรียน ซึ่งทุเรียนมีสารประกอบซัลเฟอร์ (กำมะถัน) สูง สารเหล่านี้มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “Aldehyde dehydrogenase” (ALDH) ในตับ ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารพิษ “อะเซทัลดีไฮด์” (Acetaldehyde) ที่เกิดจากการเผาผลาญแอลกอฮอล์ การสะสมของสารพิษ เมื่อเอนไซม์ ALDH ถูกยับยั้ง ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดอะเซทัลดีไฮด์ได้อย่างรวดเร็ว สารพิษนี้จึงสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น หน้าแดง ตัวร้อน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่อาการหมดสติ หรือถึงแก่ชีวิตได้
หน่วยงานที่ตรวจสอบ
กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข