โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เตือนภัย กิน "ทุเรียน" คู่ "เหล้า" อันตรายถึงขั้นหมดสติ-เสียชีวิต

TNews

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กินทุเรียนกับเหล้า” แม้จะเป็นผลไม้ที่อร่อยจนหยุดไม่ได้ แต่การกินทุเรียนต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะเมื่อกินคู่กับเหล้า เพราะสารบางอย่างในทุเรียนจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของร่างกาย จนอาจทำให้เกิดอาการร้อนใน, หมดสติ, หรือร้ายแรงที่สุดคือหัวใจวาย

เตือนภัย กิน ทุเรียน คู่ เหล้า อันตรายถึงขั้นหมดสติ-เสียชีวิต

กินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์ทำให้หมดสติได้ เป็นจริงในการเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก เพราะจะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้ ทำให้เสี่ยงต่อการหมดสติได้ ข้อแนะนำหากกินทุเรียนควรมีระยะห่างกับการดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 6 ชั่วโมง

แอลกอฮอล์มีฤทธิ์เป็น สารกดระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System Depressant) หมายความว่า มันจะไปชะลอการทำงานของสมองและระบบประสาททั้งหมด เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมากและรวดเร็ว ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้ทัน ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อสมองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุม

การรู้สึกตัว (Consciousness) เมื่อสมองส่วนนี้ถูกกดอย่างรุนแรง จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม ซึมเศร้า และในที่สุดก็หมดสติหรือเข้าสู่ภาวะโคม่าได้ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เตือนภัย กิน ทุเรียน คู่ เหล้า อันตรายถึงขั้นหมดสติ-เสียชีวิต

การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย (Temperature Regulation) แอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนได้ง่าย นำไปสู่ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (Hypothermia) ซึ่งอาจทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิต

การควบคุมการทำงานของหัวใจ (Heart Rate Regulation) อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือช้าลงได้

ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (Alcohol Poisoning) การหมดสติเป็นสัญญาณที่ร้ายแรงของภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปในเวลาอันสั้น ร่างกายไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้ทัน ทำให้เกิดการสะสมของแอลกอฮอล์และสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ในร่างกาย

ทั้งนี้ กินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เกิดอาการหมดสติได้ง่ายเพราะ สารกำมะถันในทุเรียน ซึ่งทุเรียนมีสารประกอบซัลเฟอร์ (กำมะถัน) สูง สารเหล่านี้มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “Aldehyde dehydrogenase” (ALDH) ในตับ ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารพิษ “อะเซทัลดีไฮด์” (Acetaldehyde) ที่เกิดจากการเผาผลาญแอลกอฮอล์ การสะสมของสารพิษ เมื่อเอนไซม์ ALDH ถูกยับยั้ง ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดอะเซทัลดีไฮด์ได้อย่างรวดเร็ว สารพิษนี้จึงสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น หน้าแดง ตัวร้อน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่อาการหมดสติ หรือถึงแก่ชีวิตได้

หน่วยงานที่ตรวจสอบ
กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNews

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 9 ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดชุดใหม่

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"กัน จอมพลัง"เสียความรู้สึก ลั่นถึงนักการเมืองที่ออกมาพูด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จุกอีก อดีตพระอลงกต เผยสาเหตุ บวชไม่ใช่เพราะศรัทธาพุทธศาสนา

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผู้ใหญ่บ้าน เผยถึงครอบครัว นร. วัย 13 พร้อมเรื่องที่หลายคนไม่รู้

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

สภาพอากาศวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย.เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้ฝนเพิ่ม ฝนตกหนักบางแห่ง

ฐานเศรษฐกิจ

กรมประมงเปิดเวทีระดมสมองจัดทำ “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด”

Manager Online

รวยจัด!“ทิดจอร์จ” ยอมรับ! ถูกโกงเงินบริจาคร้อยล้าน อ้างนักธุรกิจหลอกยืมไปซื้อเฮลิคอปเตอร์

เดลินิวส์
วิดีโอ

กรมศุลกากรเปิด “ปฏิบัติการล่าขบวนการลักลอบค้าโคเคน ชาวเวียดนาม”

สวพ.FM91

จับตา! เงินลงทุนมหาศาลยังคงไหลสู่ธุรกิจปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม ชี้ธนาคารโลกเมินคำมั่นสิ่งแวดล้อม

Manager Online

"บิ๊กเล็ก" กำชับ ทภ.1 ขอความร่วมมือมวลชนงดไปบ้านหนองจาน เพื่อความปลอดภัย รอ GBC แก้ปัญหา

Manager Online

ขู่แก๊งอลงกตนำทรัพย์สินคืน

ไทยโพสต์

“แพทองธาร”รอด หรือร่วง? หนีไม่พ้นสถานการณ์นรก!

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...