โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

GPSC กำไรไตรมาส 2/68 พุ่ง 77% ซดขายไฟบริษัทร่วม-เงินปันผล

PostToday

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 2,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 879 ล้านบาท หรือร้อยละ 77 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 สาเหตุหลักเนื่องจากเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จำนวน 588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 467 ล้านบาทหรือร้อยละ 388

สาเหตุหลักมาจาก CFXD รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของโครงการ CFXD เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่า ขณะที่ผลการดำเนินงานตามปกติปรับตัวลดลงตามฤดูกาล

โรงไฟฟ้า XPCL ผลประกอบการดีขึ้นจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและปรากฏการณ์ลานีญา AEPL รับรู้รายได้ทางภาษีซึ่งรับรู้เป็นขาดทุนในปี 2564 จากการไถ่ถอนตราสารหนี้ก่อนกำหนด ในปี 2564 ขณะที่ผลการดำเนินงานตามปกติลดลงตามฤดูกาลที่มีความเข้มแสงต่ำในช่วงไตรมาส 2 ของปี

กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิจำนวน 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 358 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2568 ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 57 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่า ส่งผลให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากการบันทึกปรับมูลค่าเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐที่ บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ชินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSCTW) กู้ผ่าน บริษัท จีพีเอสซี ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (GPSCTC) เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการ CFXD

ภาพ GPSC

ต้นทุนทางการเงิน จำนวน 1,292 ล้านบาท ลดลง 88 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 จากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการด้านโครงสร้างเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การลดลงของต้นทุนทางการเงินยังสะท้อนถึงสถานะกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งมากขึ้นของบริษัทฯซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ให้กู้

โดยสะท้อนผ่านมุมมองความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) จาก บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Fitch Rating) ซึ่งสะท้อนความก้าวหน้าในการลดระดับหนี้ และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้อย่างมั่นคง

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ลดลง 78 ล้านบาท หรือร้อยละ 117 สาเหตุหลักเนื่องจากบริษัทฯมีการบันทึกสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงการบันทึกบัญชีสัญญาเช่าทางการเงินตามมาตรฐาน TFRS16 และมีการบันทึกปรับปรุงหนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชีของบริษัทในเครือปี 2567 ที่ได้ชำระภาษีไปเนื่องจากการตัดค่าเสื่อมราคาทางภาษีสูงกว่าค่าเสื่อมราคาทางบัญชี

ทั้งนี้ กำไรขั้นต้น จำนวน 5,123 ล้านบาท ลดลง 126 ล้านบาทหรือร้อยละ 2 สาเหตุหลักมาจากค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าศรีราชาปรับตัวลดลงเนื่องจากจ่ายไฟฟ้าครบตามชั่วโมงที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ในเดือนพฤษภาคม 2568

ผลประกอบการของบริษัทฯงวด 6 เดือน ปี 2568 กำไรสุทธิของบริษัทฯ 3,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 866 ล้านบาท หรือร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2567 สาเหตุหลักเนื่องจากเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จำนวน 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 732 ล้านบาท งวด 6 เดือน ปี 2568 ขาดทุน 23 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจาก AEPL ผลประกอบการดีขึ้นตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น และมีการรับรู้รายได้ทางภาษีซึ่งรับรู้เป็นขาดทุนในปี 2564 จากการไถ่ถอนตราสารหนี้ก่อนกำหนดในปี 2564

ในไตรมาส 2/2568 CFXD รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากการปรับมูลค่าเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของโครงการ CFXD เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่าประกอบกับมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 ขณะที่ต้นทุนทางการเงินและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องรับรู้เต็มจำนวนหลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

โรงไฟฟ้า XPCL ผลประกอบการดีขึ้นจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและปรากฏการณ์ลานีญา TSR ผลประกอบการลดลงเนื่องจาก Adder หมดอายุทั้งหมดในเดือนมิถุนายน 2567และบริษัทฯ หยุดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ TSR ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2568 เนื่องจากบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement: SPA) ของ TSR กับบริษัทคู่ค้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามมาตรฐานบัญชีบริษัทจะต้องหยุดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญา SPA

ต้นทุนทางการเงิน จ านวน 2,673 ล้านบาท ลดลง 332 ล้านบาทหรือร้อยละ 11 จากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิจำนวน 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234 ล้านบาท โดยงวด 6 เดือน ปี2567 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 10 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่า ส่งผลให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากการบันทึกปรับมูลค่าเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐที่ บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ชินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSCTW) กู้ผ่านบริษัท จีพีเอสซี ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (GPSCTC) เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการ CFXD

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 4,671 ล้านบาท ลดลง 204 ล้านบาท หรือร้อยละ 4 สาเหตุหลักมาจากค่าตัดจำหน่ายมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้จากการเข้าซื้อ GLOW ลดลงตามอายุสัญญา

ด้านกำไรขั้นต้น จำนวน 10,371 ล้านบาท ลดลง 543 ล้านบาทหรือร้อยละ 5 สาเหตุหลักเนื่องจากกำไรผันแปร (Contribution Margin) ลดลง จากโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) เนื่องจาก โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน มีค่าเชื้อเพลิงส่วนต่าง (Energy margin) ลดลง ซึ่งเป็นผลจากรายได้ค่าถ่านหินที่สามารถเรียกเก็บจาก กฟผ. ต่ำกว่าต้นทุนราคาถ่านหินเฉลี่ยทางบัญชี (ราคาถ่านหินมีแนวโน้มปรับลดลง)

รวมทั้งมีการดำเนินการผลิตตามการเรียกรับไฟฟ้าของ กฟผ.มากกว่างวด 6เดือน ปี 2567โรงไฟฟ้าศรีราชา สาเหตุหลักมาจากค่าความพร้อมจ่ายปรับตัวลดลงเนื่องจากการจ่ายไฟฟ้าครบตามชั่วโมงที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ในเดือนพฤษภาคม 2568 โรงไฟฟ้าโกลว์ไอพีพี สาเหตุหลักมาจากค่าความพร้อมจ่ายปรับตัวลดลงเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) สาเหตุหลัก 1) ปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. ลดลงเนื่องจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโกลว์เอสพีพีสาม (GSPP3) กับกฟผ. หมดอายุในเดือนสิงหาคม 2567 และเดือนมีนาคม 2568 2) ปริมาณการขายไอน้ำลดลง เนื่องจากมีลูกค้าอุตสาหกรรมบางรายหยุดซ่อมบำรุงตามแผนงาน 3) ค่าเชื้อเพลิงและค่า FT ปรับตัวลดลง

ขณะที่ ค่าใช้จ่ายคงที่ปรับตัวลดลง สาเหตุหลักมาจากค่าเบี้ยประกันภัยโรงไฟฟ้าลดลง จากการบริหารจัดการความเสี่ยงและดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ส่งผลให้ไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันภัยของโรงไฟฟ้าลดลงในปี 2568รายได้และค่าใช้จ่ายอื่น 535 ล้านบาท ลดลง 92 ล้านบาทหรือร้อยละ 15

สาเหตุหลักมาจากกการปรับลดมูลค่าเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าของ บริษัท ไทยโซล่าร์รีนิวเอบิล จำกัด (TSR) เพื่อให้สอดคล้องกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีจำนวน 23 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 และรายได้ดอกเบี้ยรับเงินฝากสกุลดอลล่าร์สหรัฐและสกุลเงินเยนลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 1,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาทหรือร้อยละ 4 จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าที่ปรึกษาพัฒนาธุรกิจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

“คลัง” ผ่อนผันเกณฑ์ประกันภัย ช่วยผู้ประสบเหตุชายแดนไทย-กัมพชา

57 นาทีที่แล้ว

ไทยต้องจับตา! ทรัมป์ เตรียมเก็บภาษี 100% สำหรับเซมิคอนดักเตอร์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนัก เตือน 7 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันพฤหัสบดีที่ 7 ส.ค. 68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ 32.35 บาท/ดอลลาร์

การเงินธนาคาร

ธอส. ให้กู้ซ่อมบ้านที่เสียหายช่วยลูกค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ดอกเบี้ย 1% นาน 3 ปีแรก

sanook.com

"อินเดีย" อ่วม ทรัมป์ขึ้นภาษีอีกรอบ พุ่งแตะ 50% ตอบโต้ยังซื้อน้ำมันรัสเซีย ชี้หนุนสงครามยูเครน

TNN ช่อง16

เงินบาทเช้านี้ 7 สิงหาคม 2568 “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” เปิดตลาด 32.35 บาท/ดอลลาร์

TNN ช่อง16

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.33-ผันผวน Two-Way risk ตามมุมมองทิศทางดอกเบี้ยเฟด

Manager Online

คนไทยกระเทือนแค่ไหน? เมื่อสินค้าสหรัฐ 10,000 รายการไม่มีภาษี

เดลินิวส์

พาณิชย์ นำทัพนักธุรกิจไทย เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต ผู้นำเข้าตลาดอินเดีย

Khaosod

“สภาพัฒน์” เคลียร์แล้ว “ทางคู่ เฟส 2” 6 เส้นทาง ชงบอร์ดเคาะ ต้น ก.ย.นี้

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...