“สภาพัฒน์” เคลียร์แล้ว “ทางคู่ เฟส 2” 6 เส้นทาง ชงบอร์ดเคาะ ต้น ก.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ส่งรองเลขาธิการสภาพัฒน์ พร้อมคณะ มาประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงการรถไฟทางคู่ระยะ(เฟส)ที่ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง จากทั้งหมด 7 เส้นทาง และได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ(บอร์ด) สภาพัฒน์พิจารณา ประมาณต้นเดือน ก.ย.2568 จากนั้นกระทรวงคมนาคมจะรวบรวมความคิดเห็นของทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สภาพัฒน์, สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เสนอขออนุมัติโครงการฯ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือน ก.ย.นี้ ต่อไป
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า โครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 มีทั้งหมด 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร(กม.) วงเงินรวม 3.26 แสนล้านบาท ขณะนี้ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 28,679 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. และเริ่มงานก่อสร้างแล้วตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดบริการได้ในปี 2571 ส่วนที่เหลืออีก 6 เส้นทาง อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา โดย รฟท. ได้จัดลำดับความสำคัญตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ความสำคัญอันดับต้น 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270 ล้านบาท,
เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงินประมาณ 81,143 ล้านบาท, เส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422 ล้านบาท, กลุ่มที่ 2 ความสำคัญอันดับกลาง 2 เส้นทาง คือ เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,095 ล้านบาท, เส้นทางเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินประมาณ 68,222 ล้านบาท และ กลุ่มที่ 3 เส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินประมาณ 7,772 ล้านบาท
ปัจจุบันทั้ง 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,312 กม. วงเงินรวมประมาณ 2.97 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังแล้ว ยังรอการพิจารณาของสภาพัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมมายัง รฟท. อาทิ เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนฯ, การจัดลำดับการก่อสร้างแต่ละโครงการ และการรายได้เพิ่มจากการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวมายัง รฟท. หากผ่านความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะสามารถรวบรวมความคิดเห็นเสนอทั้ง 6 โครงการต่อ ครม. พิจารณาได้ทันที ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติก่อนเสนอโครงการต่างๆ เข้า ครม. ต้องสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อน
"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า หาก ครม. เห็นชอบ รฟท. จะดำเนินการในขั้นตอนการประกวดราคาต่อไป โดยขณะนี้ รฟท. ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่ปรึกษางานจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา และจัดการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 70 ล้านบาท ผ่านทางเว็บไซต์ รฟท. แล้ว ยกเว้นช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ยังไม่ได้เตรียมการ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) รอให้ผ่านความเห็นชอบก่อน สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 ทั้ง 6 เส้นทาง จะใช้เงินกู้ โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ให้ รฟท. เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้าง ในลักษณะเดียวกับโครงการรถไฟทางคู่ เฟสที่ 1 ดังนั้นหาก ครม. เห็นชอบโครงการฯ รฟท. จะมีเงินนำไปใช้ดำเนินการก่อสร้างแต่ละเส้นทางได้ แม้ว่าช่วงนี้รัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการดำเนินงานเรื่องต่างๆ ก็ตาม.