โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้จัก ‘เฉวียนโจว’ เมืองท่าเก่าแก่ รวยประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมหลากหลาย

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ “เฉวียนโจว” คำถามแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาคือ “เฉวียนโจวมีอะไร อยู่ตรงไหนของประเทศจีน” แต่เมื่อได้ไปเยือนและได้รู้จักเมืองนี้ก็พบว่าเฉวียนโจวเป็นเมืองท่าเก่าแก่ในมณฑลฝูเจี้ยนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา ร่ำรวยด้วยประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเส้นทางสายไหมสำหรับการค้าทางทะเลที่สำคัญมาตั้งแต่อดีต เป็นจุดเริ่มต้นการเดินเรือของ “เจิ้ง เหอ” นักเดินเรือชาวจีนที่มีชื่อเสียงที่เดินเรือและทำการค้ากับหลายภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงอาเซียน

กรุงเทพธุรกิจมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองเฉวียนโจวในทริป “The 2025 Silk Road Twin-City Story and the Media’s Tour of World Heritage Sites in Quanzhou” ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อทำความรู้จักเมืองใหม่ๆ ของจีนที่กำลังปลุกปั้นเป็นเมืองท่องเที่ยว

พิพิธภัณฑ์การเดินเรือเฉวียนโจว

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเฉวียนโจวเป็นเมืองท่า แน่นอนว่าเราต้องไปชม "พิพิธภัณฑ์การเดินเรือเฉวียนโจว" เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเข้าใจความเป็นมาของเมืองก่อน ต้องบอกว่าประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่สร้างพิพิธภัณฑ์และนำเสนอข้อมูลได้น่าสนใจ มีการใช้เทคโนโลยีมาประกอบเล่าเรื่องประวัติศาสตร์พันปีได้อย่างกลมกล่อมในหลายส่วน

ส่วนแรกที่เห็นคือ ภาพวาดบนฝาผนังทอดยาวไปตามทางเดิน พร้อมโปรเจกเตอร์ฉายภาพเคลื่อนไหวประกอบซ้อนกันจนผนังเหมือนมีชีวิต โซนนี้เผยให้เห็นภาพรวมการค้าในช่วง ค.ศ. 1200-1400 หรือช่วงราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน ได้เห็นความแตกต่างด้านต่างๆ ในท่าเรือ เรือจีนจะมีเสาใบเรือ 4 เสา เรือต่างชาติมี 3 เสา และได้เห็นภาพพ่อค้าแม่ค้าชาวจีนและชาวต่างชาติที่กำลังค้าขายกัน เช่น อาหรับ ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น และอาเซียน ซึ่งสามารถแยกแยะได้จากการแต่งกาย

ขณะที่ในส่วนอื่นๆ ได้นำวัตถุโบราณมาตั้งโชว์ และมีการจัดแสดงเรือจำลองประเภทต่างๆ ซึ่งนอกจากเรือการค้าแล้วยังมีเรือรบของจีนในสมัยก่อนอีกด้วย

เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม พิพิธภัณฑ์จึงจัดเวิร์กชอปเล็กๆ ให้พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กได้ร่วมสนุกและเข้าถึงประวัติศาสตร์อันมีค่าของเมืองมากขึ้น เช่น กิจกรรมสานตะกร้า และงานปั้นกระดาษ

ต่อจากพิพิธภัณฑ์แล้วเราได้ไปเยี่ยมชม “วัดไคหยวน” ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 686 เป็นวัดศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลฝูเจี้ยน หากมองเผินๆ ก็เหมือนวัดพุทธในจีนทั่วไป แต่สิ่งน่าสนใจที่ซ่อนอยู่คือ ลวดลายแปลกตาในกำแพงวัดที่เหมือน “สฟิงซ์” โดยมีลำตัวส่วนล่างเหมือนสิงโตแต่ส่วนบนเป็นมนุษย์ แสดงให้เห็นถึงการรับวัฒนธรรมที่หลากหลายของเมือง

สิ่งที่ประทับใจในวัดนี้อีกอย่างคือ แม้วัดไคหยวนเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม แต่วัดไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชม เพื่อเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าชม เรียนรู้ และสัมผัสประวัติศาสตร์ผ่านโบราณสถานแห่งนี้ได้ฟรีๆ จากเดิมเคยเก็บทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ 15 หยวนต่อคน ซึ่งทำให้วัดมีรายได้ 7 แสนถึง 1 ล้านหยวนต่อวัน อย่างไรก็ตาม แม้วัดขาดรายได้ท่องเที่ยวแต่ก็ยังมีเงินบริจาคที่ใช้เป็นงบประมาณบำรุงรักษาโบราณสถานได้

หากใครต้องการสัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดแนะนำให้ไป “ชุมชนซุนผู่” ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงที่ยังคงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมพื้นบ้านไว้มาอย่างยาวนาน

ชุมชนนี้มีชื่อเสียงด้านการสร้างบ้านด้วยเปลือกหอยนางรม การใช้หอยนางรมสร้างบ้านนั้นทำให้ตัวบ้านอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน และจากที่ได้ไปเยือนก็พบว่าหอยนางรมที่ใช้สร้างบ้านมีขนาดใหญ่มาก บางชิ้นใหญ่กว่าฝ่ามือเสียอีก

ชุมชนยังมีชื่อเสียงในเรื่องการแต่งกาย ผู้หญิงซุนผู่จะสวมมงกุฎดอกไม้และใส่เสื้อแขนยาวสีสันสดใสลายดอก การใส่มงกุฎดอกไม้มีมานานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์หยวน โดยมีความเชื่อว่า “หากปักดอกไม้บนหัวในชาตินี้ จะสวยในชาติหน้า”

ผู้หญิงซุนผู่มีเสียงชื่อว่าเป็นสตรีที่ขยันขันแข็ง อดทน และเป็นผู้ที่หาอาหารทะเลได้เก่งและมีคุณภาพที่สุด หากลูกค้าอยากได้อาหารทะเลคุณภาพดี ก็แค่กวาดตามองหาสตรีสวมมงกุฎดอกไม้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากลองสวมมงกุฎดอกไม้ แน่นอนว่ามีร้านให้เช่ามงกุฎดอกไม้พร้อมชุดท้องถิ่น ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่ บางร้านมีให้ครบรวมแต่งหน้าทำผม ไกด์เผยว่าธุรกิจเช่าชุดรูปแบบนี้ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนได้มาก บางร้านมีรายได้หลักหมื่นหยวนต่อวัน และที่สำคัญช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ได้จำนวนมาก

สตรีทฟู้ดน่าลอง คนท้องถิ่นเป็นมิตร

ความประทับใจเมืองนี้อีกอย่างคือผู้คน หลังจากผู้เขียนได้ไปเดินสตรีทฟู้ดช่วงค่ำสามวันติด ทำให้ได้ใกล้ชิดกับคนท้องถิ่นมากขึ้น และสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และเนื่องจากรู้คำศัพท์จีนสำหรับสื่อสารเพื่อสั่งอาหารอยู่บ้างเลยมีโอกาสได้ลองใช้ และเมื่อพ่อค้าแม่ค้ารู้ว่าเราเป็นต่างชาติเขาก็ยิ้มต้อนรับ แม้บางครั้งจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง เขาก็พยายามที่จะพูดคุยด้วย โดยใช้โทรศัพท์มือถือช่วยแปล และเมื่อรู้ว่าเราเป็นคนไทย บรรยากาศก็สดใสขึ้นมากกว่าเดิม

พนักงานร้านมี่เสวี่ย (Mixue) เชนไอกรีมและเครื่องดื่มชื่อดังของจีนกล่าว “สวัสดีครับ” เมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมทริปเป็นคนไทย ขณะที่พนักงานร้านขายของชำ ได้ยินผู้เขียนและเพื่อนพูดภาษาไทย ถึงกับเดินมาถามด้วยแอปแปลภาษาในโทรศัพท์ว่ามาจากประเทศไทยหรือเปล่า และเมื่อรู้ว่าเป็นคนไทยก็ยิ้มดีใจ แล้วพูดจีนใส่รัวๆ จากเซนต์คาดว่าคงแปลว่า “ว่าแล้วต้องเป็นคนไทย” อะไรทำนองนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เขียนและเพื่อนร่วมทริปได้เจอกับหญิงชาวจีนวัยรุ่นน่ารักสดใส ใส่ชุดไทยชงชาไทยพร้อมไลฟ์สด เดาว่าอาจจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับการจ้างมาให้โปรโมตร้านเครื่องดื่ม เมื่อคอนเทนต์มาเสิร์ฟถึงที่ก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปพูดคุยและอุดหนุนชาไทยบ้านเราเสียหน่อย หญิงชาวจีนเมื่อรู้ว่าเป็นคนไทยก็ยิ้มดีใจ ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปหมู่เก็บไว้เป็นที่ระลึก

ขณะกำลังเดินกลับที่พักในคืนที่สาม ก็แวะซื้อข้าวผัดร้านลุงคนหนึ่ง ผัดข้าวควันโขมงแบบนี้ เพื่อนร่วมทริปคอนเฟิร์มว่าอร่อยชัวร์

ระหว่างเดินไปเดินมาลังเลว่าจะสั่งอะไรดี เพื่อนร่วมทริปทุกคนก็ลงความเห็นว่าอยากกินข้าวผัดเผ็ดๆ เลยลองสั่งด้วยภาษาจีนแบบ งูๆ ปลาๆ พร้อมชี้ไปที่รูปข้าวผัดว่า “อีเก้อ ล่า” แปลตรงๆ ก็ “เอาอันนี้หนึ่ง เผ็ดๆ” หญิงชาวจีนที่ยืนสั่งก่อนหน้าก็ช่วยพูดให้อีกที น่ารักมาก

หลังสั่งอาหารเป็นภาษาจีน ลุงเชฟข้าวผัดขวันโขมงยิ้มชอบใจ หยิบข้าวเพิ่มอีกกล่องแล้วชี้ประหนึ่งถามว่าเอาอีกมั้ย ทุกคนงง แต่ก็พยักหน้า ลุงเพิ่มข้าวให้เป็น 1 กล่องกลับอีกครึ่งกล่อง คิดราคาเท่าเดิม 10 หยวน หรือราว 50 บาทไทย ถือว่าถูกมาก แต่เข้าใจได้เพราะมีแค่ผักและถั่ว ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่อร่อย รสชาติเผ็ด เค็ม แถมเม็ดข้าวก็ร่วนสวย

แอบกระซิบความเซอร์ไพรส์อีกอย่างในฐานะที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนในช่องแคบไต้หวัน ด้วยเฉวียนโจวตั้งอยู่ตรงข้ามกับไต้หวัน แม้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นยุทโธปกรณ์หรือการซ้อมรบจริงจังบริเวณชายหาดระหว่างไปเยือนชายฝั่ง Shishi Gold แต่ก็มีเฮลิคอปเตอร์โผล่มาเซอร์ไพรส์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าเป็นการซ้อมบินและเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวเป็นเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย ในขณะที่คนไทยตื่นเต้น หันไปมองคนจีนกลับเดินเล่นชายหาดกันสนุกสนาน ประหนึ่งว่าการซ้อมบินเป็นเรื่องปกติในชายหาดแห่งนี้

เฉวียนโจวเป็นเมืองเล็กๆ แต่ไม่เงียบเหงา เชื่อว่าหากใครอยากไปเที่ยวที่ใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร ไม่วุ่นวาย เฉวียนโจวก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แนะนำว่าควรไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ถกผู้นำทหาร 'อินโด-แปซิฟิก' ไทยยกวาระชายแดนไทย-กัมพูชา แจงข้อเท็จจริง

33 นาทีที่แล้ว

ทภ.1 คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว 24 ชม.วางแนวลวดหนามคงเดิม

49 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยวันนี้ 26 ส.ค.68 พักตัว เริ่มไร้ปัจจัยบวก กรอบ 1250-1270 จุด

59 นาทีที่แล้ว

‘บูรพาสันติ’ ดาวรุ่งฝูงบิน 102 ‘แม่ย่านางกริพเพน’ ฝูงใหม่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

224 Winesphere – Hidden Wine Bar with Local Ari Charm

Ticy City

“ผมจะทุ่มเทให้กับช่วงเวลานี้” RM เผยว่า BTS กำลังตั้งใจทำอัลบั้มใหม่

THE STANDARD

26 สิงหาคม วันสุนัขแห่งชาติ (National Dog Day)

INN News

ผ่าอนาคตสิ่งทอเมืองไทย ดันหัตถศิลป์ดั้งเดิม

เดลินิวส์

Prime Video เผยภาพชุดแรกของ “แม่ซื้อ (Host)” ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใหม่

Insight Daily

กระเป๋าผ้าไหมไทย 2 ใบพิเศษจากปูมผ้าทอ 2 ครูศิลป์ของแผ่นดิน

กรุงเทพธุรกิจ

MOTT 32 BANGKOK เปิดตัวเมนูใหม่ เสิร์ฟถึง 30 กันยายน 2568

กรุงเทพธุรกิจ

ใบแปะก๊วย สุดยอดสมุนไพรบำรุงสมองและอีกหลายสรรพคุณที่คุณอาจไม่เคยรู้

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...