เดือด! ออสเตรเลียขับไล่ทูตอิหร่าน หลังพบความเชื่อมโยงเหตุวางเพลิง
วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่า ทางการออสเตรเลียให้เวลาเอกอัครราชทูตอิหร่าน 7 วัน ในการเดินทางออกนอกประเทศ โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีต่อต้านชาวยิวในซิดนีย์และเมลเบิร์น
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบาเนซี กล่าวในการแถลงข่าวว่า หน่วยข่าวกรองพบความเชื่อมโยงระหว่างอิหร่านกับเหตุวางเพลิงร้านกาแฟในซิดนีย์เมื่อเดือน ต.ค. 2024 และเหตุวางเพลิงโบสถ์ยิวในเมลเบิร์นเมื่อเดือน ธ.ค. 2024
อัลบาเนซีกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ทั้งสองครั้งเป็น “ความพยายามที่จะบ่อนทำลายความสามัคคีทางสังคมและก่อให้เกิดความขัดแย้งในชุมชนของเรา”
เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำออสเตรเลีย อาหมัด ซาเดกี และเจ้าหน้าที่อีก 3 คน ได้รับคำสั่งให้เดินทางออกจากออสเตรเลีย ขณะที่ออสเตรเลียเองได้ถอนนักการทูตออกจากอิหร่านแล้ว
ขณะที่ทางการอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหานี้โดยสิ้นเชิง โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า การตัดสินใจขับไล่ทูตของพวกเขานั้น “เป็นผลมาจากนโยบายภายในประเทศของออสเตรเลีย” เอง
อย่างไรก็ตาม ไมค์ เบอร์เจสส์ หัวหน้าองค์กรข่าวกรองความมั่นคงออสเตรเลีย (Asio) กล่าวว่า “อิหร่านพยายามปกปิดความเกี่ยวข้องในการโจมตีร้านอาหาร Lewis Continental Kitchen ในซิดนีย์เมื่อวันที่ 20 ต.ค. และโบสถ์ยิว Adass Israel Synagogue ในเมลเบิร์นเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.”
เบอร์เจสส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “พวกเขาเพียงแค่ใช้กำลังส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงอาชญากรและสมาชิกแก๊งอาชญากรรม เพื่อออกคำสั่งหรือชี้นำคำสั่ง”
หน่วยข่าวกรองออสเตรเลียยังพบว่า อิหร่านน่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่อต้านยิวอื่น ๆ ในออสเตรเลีย ซึ่งพบเห็นการโจมตีโรงเรียน บ้านเรือน ยานพาหนะ และโบสถ์ยิวของชาวยิว นับตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 และสงครามในฉนวนกาซาที่ตามมา
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มภาคประชาสังคม Islamophobic Register ก็ได้บันทึกจำนวนเหตุการณ์ต่อต้านอิสลามที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
อัลบาเนซีกล่าวว่า ผลการค้นพบที่เปิดเผยในวันที่ 26 ส.ค. นั้น “น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง” โดยอธิบายว่าเหตุการณ์ทั้งสองครั้งเป็น “การละเมิดที่ร้ายแรงและอันตราย”
ด้าน เพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ออสเตรเลียขับไล่เอกอัครราชทูต
หว่องกล่าวว่า ออสเตรเลียจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านไว้ แต่ได้ระงับการดำเนินงานที่สถานทูตในอิหร่านเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
เธอยังเรียกร้องให้ชาวออสเตรเลียงดเดินทางไปอิหร่าน และเรียกร้องให้พลเมืองในประเทศอิหร่านออกจากประเทศทันที หากสถานการณ์ปลอดภัยที่จะทำเช่นนั้น
เรียบเรียงจาก BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เดือด! ออสเตรเลียขับไล่ทูตอิหร่าน หลังพบความเชื่อมโยงเหตุวางเพลิง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com