สัมพันธ์ร้าว! ออสเตรเลียขับไล่ "ทูตอิหร่าน" พ้นประเทศ หลังพบมีเอี่ยวโจมตีชาวยิว
วันที่ 26 สิงหาคม 2025 บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้เวลาเอกอัครราชทูตอิหร่าน 7 วันในการออกจากประเทศ หลังจากหน่วยข่าวกรองระบุว่ารัฐบาลอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีที่มีลักษณะต่อต้านชาวยิวในนครซิดนีย์และเมลเบิร์น
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส แถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า หน่วยข่าวกรองของออสเตรเลียได้เชื่อมโยงอิหร่านกับเหตุวางเพลิงร้านอาหารในซิดนีย์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเหตุเพลิงไหม้ที่โบสถ์ยิวในเมลเบิร์นเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เขาระบุว่า เหตุการณ์ทั้งสองเป็น “ความพยายามในการบ่อนทำลายความสามัคคีในสังคม และสร้างความแตกแยกในชุมชนของเรา”
ออสเตรเลียจึงได้สั่งให้เอกอัครราชทูตอิหร่าน นายอาห์หมัด ซาเดกี พร้อมเจ้าหน้าที่ทูตอีก 3 คน ออกจากประเทศ และได้เรียกเจ้าหน้าที่การทูตของตนกลับจากกรุงเตหะราน โดยรัฐบาลอิหร่านได้ “ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง” ต่อข้อกล่าวหานี้ พร้อมระบุผ่านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศว่า การตัดสินใจดังกล่าวของออสเตรเลีย “เกิดจากการเมืองภายในประเทศของออสเตรเลียเอง”
ขณะที่นายไมค์ เบอร์เจส ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองความมั่นคงแห่งออสเตรเลีย (ASIO) เปิดเผยว่า ทีมของเขาพบหลักฐานเชื่อมโยงอาชญากรรมดังกล่าวกับผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) หลังการสืบสวนที่กินเวลาหลายเดือน
“พวกเขาใช้พวกตัวแทนหรือนอมินี รวมถึงอาชญากรและสมาชิกแก๊งอาชญากรรมในการปฏิบัติการหรือสั่งการแทน” เบอร์เจสกล่าว
เขายังระบุด้วยว่า IRGC ใช้เครือข่ายตัวแทนที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดการมีส่วนร่วมในเหตุวางเพลิงที่ร้าน Lewis Continental Kitchen ในนครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม และที่โบสถ์ยิว Adass Israel ในนครเมลเบิร์น เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม
นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของออสเตรเลียยังพบหลักฐานว่าอิหร่านอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวอื่น ๆ ภายในประเทศ รวมถึงการโจมตีโรงเรียนยิว บ้าน รถยนต์ และโบสถ์ยิวหลายแห่ง นับตั้งแต่เหตุการณ์ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งฮามาสเป็นพันธมิตรของอิหร่าน และตามมาด้วยสงครามในฉนวนกาซา
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มภาคประชาสังคมที่ชื่อว่า Islamophobic Register ก็พบว่ามีเหตุการณ์เกลียดชังชาวมุสลิมในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ตำรวจออสเตรเลียได้ระบุเมื่อเดือนมกราคมว่า กำลังสอบสวนความเป็นไปได้ที่การโจมตีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับชาวยิว อาจถูกควบคุมหรือสั่งการโดย “บุคคลหรือองค์กรจากต่างประเทศ”
นายอัลบานีสกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานข่าวกรองในครั้งนี้ “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็น “การรุกรานที่ร้ายแรงและไม่ธรรมดา”