COSMAX จับมือ aCommerce ใช้ดาต้าทำแบรนด์ “YOUTHLABO” รุกตลาดสกินแคร์ไทย
COSMAX จับมือ aCommerce เปิดตัว “YOUTHLABO” รุกตลาดสกินแคร์ไทย ผนึกกำลังผู้ผลิตระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญอีคอมเมิร์ซ ใช้ข้อมูลเชิงลึกพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 1% ในปีแรก ชูจุดแข็ง “Made in Thailand, K-Science Inside” รับเทรนด์ Derma Care
นายมินกู คัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท COSMAX (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโลกมีความท้าทาย แต่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามยังคงเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์และ Derma Care ซึ่งผู้บริโภคมีความรู้และเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น ทำให้สกินแคร์กลายเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน YOUTHLABO จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับเทรนด์นี้อย่างตรงจุด
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านการผลิตของ COSMAX ที่มีโรงงานทันสมัยในประเทศไทย เข้ากับความเข้าใจตลาดและข้อมูลเชิงลึกด้านอีคอมเมิร์ซของ aCommerce โดยมีแนวคิดหลักคือ “Made in Thailand, K-Science Inside” เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ความงามจากเกาหลี ในราคาที่สามารถแข่งขันได้จากการผลิตภายในประเทศ
“การผลิตสินค้าของแบรนด์YOUTHLABO ในไทยสะท้อนความเชื่อมั่นของ aCommerce ต่อศักยภาพการผลิตของโรงงานที่สามารถผลิตสินค้า K-Beauty และ K-Science ได้อย่างครบวงจร โดยเน้นกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยได้อย่างแท้จริง”
ด้าน นายวีระพงษ์ ศรีวรกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า YOUTHLABO ถูกพัฒนาขึ้นจากข้อมูลการค้นหาของผู้บริโภคในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทำให้ส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 รายการสอดคล้องกับความต้องการสูงสุดของตลาด โดยมุ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของYOUTHLABO จะมุ่งเน้นช่องทางออนไลน์เป็นหลัก 100% ผ่านแพลตฟอร์มสำคัญอย่าง Lazada, Shopee, TikTok และ Facebook เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ และวางแผนขยายสู่ช่องทาง Modern Trade ในระยะถัดไป
“จากประสบการณ์ของ aCommerce ในการบริหารแบรนด์ความงามระดับโลก ทำให้มีความเข้าใจผู้บริโภคเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์YOUTHLABO จะสร้างมิติใหม่ให้กับตลาดสกินแคร์ไทย โดยตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาด Derma Care ไว้ที่ 1% ในปีแรก”