กรรมการ BOJ เตือนนโยบาย “ภาษีสหรัฐ” เสี่ยงกดดันเศรษฐกิจโลก
กรรมการ BOJ ชี้ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ พร้อมย้ำว่า BOJ จะประเมินข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะผลสำรวจ Tankan ก่อนตัดสินใจปรับนโยบายการเงิน
วันที่ 28 สิงหาคม 2568 เวลา 14.33 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Junko Nakagawa กรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่ต่อเนื่องจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐ อาจกดดันต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งอาจส่งผลถ่วงเศรษฐกิจทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก
แม้ญี่ปุ่นและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้า และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจหลักมีความคืบหน้า แต่นากากาวะกล่าวว่า “ยังมีความไม่แน่นอนอีกมาก” พร้อมเตือนว่า ความรู้สึกของธุรกิจและครัวเรือนทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบ และอาจกดดันเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ
นากากาวะย้ำว่า BOJ จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเศรษฐกิจเดินหน้าเป็นไปตามคาดการณ์ แต่จำเป็นต้องประเมินข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเชิงนโยบาย ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผลจากการสำรวจ Tankan ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจรายไตรมาสของ BOJ ซึ่งเธอระบุว่าเป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งที่สะท้อนมุมมองของบริษัทญี่ปุ่นและแผนการลงทุน ทั้งนี้ผลสำรวจรอบถัดไปจะประกาศในวันที่ 1 ตุลาคม
นากากาวะ อดีตประธาน Nomura Asset Management ถือเป็นกรรมการ BOJ ที่มีจุดยืนเป็นกลางด้านนโยบายการเงิน หลัง BOJ ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินมากว่าทศวรรษเมื่อปีที่แล้ว และได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ในเดือนมกราคม ด้วยมุมมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นใกล้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อย่างยั่งยืน
แม้ BOJ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนกรกฎาคม แต่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อและประเมินเศรษฐกิจในเชิงบวกมากขึ้น ทำให้ตลาดยังคาดว่าอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ขณะที่เงินเฟ้ออาหารที่สูงต่อเนื่องและการปรับขึ้นค่าแรงอย่างยั่งยืน ทำให้กรรมการบางส่วนเตือนถึงความเสี่ยงแรงกดดันราคาที่อาจต้องใช้นโยบายเข้มงวดขึ้น
นากากาวะ ยังระบุว่า แรงกดดันด้านค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคาสินค้าและบริการเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นครัวเรือนและความคาดหวังด้านเงินเฟ้อ
“เราต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงที่แรงกดดันขาขึ้นจะแพร่กระจายไปทั่วและผลักดันให้เงินเฟ้อเร่งตัวแรง” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า แม้ความเสี่ยงที่ BOJ จะดำเนินนโยบายล่าช้าจะ “ยังไม่สูงนักในตอนนี้” แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะการเชื่อมโยงระหว่างการขึ้นค่าแรงและเงินเฟ้อมีความซับซ้อนกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แบบสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ในเดือนสิงหาคมระบุว่า เกือบ 2 ใน 3 คาดว่า BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.25% ภายในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เมื่อเดือนก่อน
อ้างอิง : www.reuters.com