ยอดเสียชีวิต "ฝีดาษลิง" ในแอฟริกาพุ่ง 1,922 ราย นับตั้งแต่ต้นปี 2567
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา (Africa CDC) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโรคฝีดาษลิง (mpox) ในทวีปแอฟริกาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,922 ราย ขณะที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 174,597 คนใน 27 ประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2567
ดร.งาชิ งงโก หัวหน้าสำนักงานบริหารของ Africa CDC ระบุระหว่างแถลงข่าวทางออนไลน์ว่า ปี 2568 มีรายงานผู้ป่วย mpox แล้ว 94,300 ราย หรือคิดเป็น 117% ของจำนวนผู้ป่วยตลอดทั้งปีที่แล้ว โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยยืนยันผลทางห้องปฏิบัติการ 29,084 ราย เพิ่มขึ้นจาก 19,713 รายในปี 2567
อย่างไรก็ตาม ฃ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยทั้งที่ยืนยันแล้วและต้องสงสัยติดเชื้อนั้น มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับช่วงพีกในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และยังกล่าวว่าการขยายการตรวจวินิจฉัยถือเป็นสัญญาณเชิงบวกในการควบคุมโรค
โรคฝีดาษลิงซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ monkeypox ถูกตรวจพบครั้งแรกในลิงทดลองเมื่อปี 2501 โดยเป็นโรคไวรัสหายากที่สามารถติดต่อผ่านของเหลวในร่างกาย ละอองสารคัดหลั่ง และวัสดุปนเปื้อน ผู้ป่วยมักมีไข้ มีผื่นขึ้น และต่อมน้ำเหลืองโต
Africa CDC ประกาศให้การระบาดของโรคนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับทวีปตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศในเวลาต่อมา
อาการฝีดาษลิง
คนสามารถติดโรคจากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน อาจนานถึง 21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา
อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ โดยอาการรุนแรงมักพบในกลุ่มเด็ก ซึ่งในประเทศแอฟริกาพบอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10
การป้องกันควบคุมโรคฝีดาษลิง
1) หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อหรือสัตว์ป่า
2) หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ
3) หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสกับสัตว์หรือคนที่ติดเชื้อ หรือเดินทางเข้าไปในป่า
4) ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศโดยไม่มีการ คัดกรองโรค
5) กรณีมีการเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องทำการคัดกรองและเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที และทำการแยกกักเพื่อมิให้ผู้ป่วยมีการแพร่กระจายเชื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง