แบรนด์ ‘นาฬิกาสวิส’ กุมขมับ โดนภาษี 39% อาจดันราคาแพงขึ้น 65%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาษีนำเข้าสหรัฐทำบรรดาบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรูปั่นป่วน จากมาตรการภาษีนำเข้า 39% ทำให้มีการเร่งส่งนาฬิกา ระงับการสั่งซื้อ นาฬิกาผ่านเว็บไซต์สำหรับลูกค้าในสหรัฐชั่วคราว และการคำนวณความเสียหายจากมาตรการนี้
Amarildo Pilo เจ้าของบริษัทนาฬิกา Pilo & Co ประมาณการว่าการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งนี้ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส จะทำให้ราคานาฬิกาสวิสสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันแพงขึ้นเฉลี่ย 65%
นาฬิกาสวิสเร่งส่งสินค้าหนี 'ภาษี'
Dubois et fils บริษัทผลิตนาฬิกาเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2328 ได้เร่งส่งนาฬิกาจากโรงงานที่เมืองมุตเตนซ์ ใกล้กับบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้สินค้าไปถึงสหรัฐก่อนที่ภาษีนำเข้าใหม่จะมีผลบังคับใช้วานนี้ (7 ส.ค.68) ที่ระดับ 39% จากเดิม 10% หลังจากที่ ปธน.สวิส เกินทางไปเจรจากับสหรัฐไม่บรรลุผล ทำให้บริษัทต้องรีบดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างมาก
โธมัส สไตน์มันน์ ซีอีโอของ Dubois et fils กล่าวว่า นี่เป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมนาฬิกา พร้อมอธิบายว่าได้ระงับการสั่งซื้อจากสหรัฐแล้ว เพื่อคำนวณราคาใหม่ที่ต้องปรับเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยค่าภาษีศุลกากร โดยยืนยันว่าบริษัทจะไม่ยอมรับผลกระทบนี้โดยไม่ทำอะไรเลย
หลังจากนี้ ราคาขายนาฬิกาของบริษัทในสหรัฐกำลังจะพุ่งสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น นาฬิการุ่น DuBois DBF008 ที่เดิมราคา 10,800 ดอลลาร์ จะต้องปรับขึ้นไปเป็น 14,500 ดอลลาร์ ซึ่งบริษัท Dubois มียอดขายในสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของยอดขายทั่วโลก
สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อ Dubois et fils เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์นาฬิกาสวิสชื่อดังอื่นๆ ที่อาจต้องเผชิญกับความท้าทายเดียวกัน ทั้ง Rolex, Patek Philippe รวมถึงแบรนด์ในเครือยักษ์ใหญ่ อย่าง Tag Heuer (ในเครือ LVMH), Omega (ในเครือ Swatch) และ IWC Schaffhausen (ในเครือ Richemont) ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องวางแผนรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น และยอดขายในสหรัฐที่อาจลดลงในอนาคต
กำลังซื้อจากตลาดใหญ่กำลังหายไป
ข้อมูลจากสหพันธ์อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ระบุว่า สหรัฐเป็นตลาดส่งออกสำคัญ คิดเป็น 17% ของมูลค่าการส่งออกนาฬิกาทั้งหมดของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีมูลค่ารวม 26,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 32,000 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว
Amarildo Pilo เจ้าของบริษัทนาฬิกา Pilo & Co ชี้ว่า แม้หลายแบรนด์จะใช้วิธีส่งสินค้าไปล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีในระยะสั้น แต่ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาระยะยาว พร้อมทั้งเตือนว่า ก่อนหน้านี้สหรัฐเป็นตลาดที่ทุกแบรนด์ให้ความสนใจ และอยากเข้าไปทำตลาด แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
"คนอเมริกันจะเลิกซื้อนาฬิกาในอเมริกา"
Amarildo Pilo ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Swiss Independent Watchmakers Pavilion ซึ่งเป็นตัวแทนแบรนด์นาฬิกาอิสระ 28 แบรนด์ ให้ความเห็นว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้จะทำให้คนอเมริกันไม่ซื้อนาฬิกาในประเทศตัวเองอีกต่อไป
"แต่คนที่อยากได้ และชื่นชอบนาฬิกาจริงๆ ก็จะไปซื้อที่อื่นแทน ดังนั้น การขึ้นภาษีนี้จึงเป็นความสูญเสียสำหรับสหรัฐเอง"
กังวลกระทบ ‘เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์’
จอห์น พลาสซาร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากธนาคาร Cite Gestion ชี้ว่า ผลกระทบจากภาษีครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ GDP สวิตเซอร์แลนด์ระหว่าง 0.3% ถึง 0.6% ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล
“เรื่องนี้จะลดศักยภาพการเติบโตลงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นผลกระทบทางอ้อมอาจทำให้เศรษฐกิจสวิสมีการว่างงานเพิ่มขึ้น” พลาสซาร์ด กล่าว
Sacha Davidoff ร้านบูติกนาฬิกาวินเทจในเจนีวามองว่า "ภาษี 39% ถือเป็นการโจมตีอย่างหนักต่อการส่งออก ถือเป็นการตัดตลาดสหรัฐออกไป และอาจทำให้การส่งออกนาฬิกาวินเทจหายไปด้วย แต่ก็หวังว่าสถานการณ์จะได้รับการแก้ไขในที่สุด หรือไม่ก็เน้นการขายที่ตลาดต่างประเทศ"
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์