“มาริษ” ยันกต.เดินหน้าเรียกร้องความเสียหายปะทะกัมพูชา
"มาริษ" ให้กำลังใจผู้อพยพ ยืนยัน กต.เดินหน้าเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้น ชี้ผลประชุม GBC เป็นหมุดหมายสู่สันติภาพ ประชาชนสามารถกลับบ้าน-ใช้ชีวิตปกติ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การสู้รบ และการดำเนินการตามแผนปฏิบัติพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ และเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงติดตามความคืบหน้าการประเมินความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนเพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับบ้านได้
หลังมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee) หรือ GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในการหยุดยิง อันจะนำไปสู่สันติภาพและความสงบสุขของ ชายแดนไทย–กัมพูชา เพราะสันติภาพที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากการหยุดยิง และการแสดงความรับผิดชอบต่อการสูญเสีย
นายมาริษ ยังได้ติดตามและรับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากพื้นที่ โดยเฉพาะในประเด็นผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาต่อพลเรือน และพื้นที่พลเรือนของไทย รวมทั้งการวางทุ่นระเบิด ของกองทัพกัมพูชา ซึ่งละเมิดกฎหมายมนุษธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law: IHL) และอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ถึงแม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่ความเสียหายต่อพลเรือนได้เกิดขึ้นแล้ว
กระทรวงการต่างประเทศยังคงเดินหน้าดำเนินการร้องเรียนต่อเวทีสหประชาชาติ และประชาคมโลก เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ของกัมพูชา เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ และความยุติธรรมต่อพี่น้องประชาชนไทยผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งทหารไทยที่ได้รับการสูญเสีย และบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้ในดินแดนของไทย อันเป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพของประเทศ
นายมาริษ ยังย้ำว่า ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศตามแนวนโยบายของรัฐบาลได้ดำเนินการร้องเรียนในเวทีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ ในประเด็นทุ่นระเบิด กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ของกระทรวงเพื่อประท้วง และการออกหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ผ่านคณะผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา, การออกหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อเรียกร้องการชี้แจงของกัมพูชาต่อกรณีการวางทุ่นระเบิดฯ ผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
และในประเด็นการโจมตีเป้าหมายทางพลเรือนของกัมพูชา รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ประณาม และออกแถลงการณ์ ต่อกรณีที่กัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงยิงใส่บ้านเรือนของประชาชนในดินแดนไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมถึงการกล่าวถ้อยแถลงประณามกัมพูชาต่อการโจมตีเป้าหมาย ทางพลเรือน ในการประชุมฉุกเฉินในกรอบคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC โดยเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และตนเอง ยังได้มีหนังสือลงนามถึงประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC และข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รวมถึงการประสานงานกับกองทัพ เพื่อนำคณะผู้แทน คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเชลยศึก 18 นาย เพื่อย้ำถึงการปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างดี และโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 4-6 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายมาริษ ย้ำว่า ประเทศไทยเคารพ และพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงทั้ง 13 ข้อ ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญเพื่อนำไปสู่ความสงบสันติในภูมิภาค แต่ความสูญเสียต่อพลเรือนที่เกิดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่ ต้องเกิดความรับผิดชอบ จึงต้องเดินหน้าการทำงานใน 2 ส่วนนี้คู่ขนานกันไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews