DSI บุก สนง.ที่ดินบุรีรัมย์ หาข้อมูลที่ดินเขากระโดง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 3.51 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทบุรีรัมย์ 19 ส.ค. – ดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ กรณีพื้นที่พิพาทเขากระโดง เบื้องต้นพบข้อมูลที่ดินเชื่อมโยงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ฟันธง เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือโฉนด
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ดีเอสไอ เดินทางไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอข้อมูลความเป็นมาของที่ดินเขากระโดง โดยได้ขอตรวจสอบระวางแผนที่ ความเป็นมาของที่ดิน และประวัติการทำธุรกรรมด้านที่ดินข้อพิพาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ในการตรวจสอบ
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า พื้นที่เขากระโดง อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ 5,083 ไร่ เบื้องต้นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลที่ต้องการเรื่องของสารบบที่ดินที่มีอยู่หลายแปลง ระวางแผนที่ ระวางภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งประวัติความเป็นมา ซึ่งสำนักงานที่ดินได้เตรียมไว้ให้ เพื่อไปตรวจสอบว่าแผนที่ที่เราได้จากการรถไฟฯ ถูกต้องตรงกันหรือไม่อย่างไร
เบื้องต้นทางพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ทำข้อมูลแผนที่ 1 ต่อ 4,000 ในภูมิประเทศจริง กับแผนที่ที่การรถไฟฯ ให้มา และแผนที่ตั้งแต่เริ่มสร้างทางรถไฟที่เขากระโดง ซึ่งได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกันถูกต้อง โดยจะได้นำข้อมูลนี้มาทำการสืบสวนสอบสวนต่อ
ขณะเดียวกันต้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อตรวจสอบว่ามีใครมายื่นร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่ามีหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 12 หน่วยงาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ดินข้อพิพาทว่าที่ดินดังกล่าวได้มาอย่างไร รวมถึงที่ดินที่เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้เพื่อแสดงแนวเขตที่ดินของรัฐ บริเวณชายขอบของที่ดินการรถไฟฯ อีกด้วย
เบื้องต้นพบว่ามีการออกโฉนดเมื่อปี 2513 เรื่อยมาจนถึงปี 2554-2555 นอกจากนี้ยังพบว่าการรถไฟฯ ได้มารับรองโฉนดที่ออกอีกด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยจะไปหาข้อมูลของการรถไฟฯ ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เหล่านี้
สำหรับคดีที่มีคำพิพากษาแล้วและกฤษฎีกาตีความแล้วนั้น จะต้องพิสูจน์สิทธิของผู้ที่มีโฉนดว่าใครมีสิทธิดีกว่า ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการพิสูจน์สิทธิว่าใครเอาหลักฐานอะไรมาใช้ในการออกโฉนด เช่น สค.1, ใบจอง หรือใบเหยียบย่ำ หรือ น.ส.3 ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐานสาระบบ เพราะยังพบว่ายังมีพื้นที่ว่างอยู่ในพื้นที่นี้อยู่ด้วย
ส่วนจะเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่นั้น คดีทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมเรื่องที่ดิน เรื่องนี้จะมีบัญชีท้ายคือการครอบครองที่ดินเกินกว่า 50 ไร่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบนั้นสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้.-สำนักข่าวไทย