'เฉลิมชัย' ย้ำกรมอุทยานฯ เร่งพัฒนาระบบแจ้งเตือนป้องกันอันตรายจากช้างป่า พร้อมอัพเดตแผนที่ช้างต่อยอดสู่แอปพลิเคชัน
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ช้างป่าทางภาคตะวันออกที่มีอยู่ในพื้นที่เกือบ 800 ตัว และกว่า 70-80 % มีพฤติกรรมออกมาหากินนอกป่าที่อาศัยอยู่ โดยเดินออกมามากกว่า 30 กิโลเมตร ทั้งยังพบว่าช้างไม่ยอมกลับเข้าป่า โดยในช่วงกลางวันจะอาศัยหย่อมป่าขนาดเล็กเป็นที่นอนหลบแดด จากนั้นในช่วงบ่ายจะออกมากินอาหาร ซึ่งเป็นพืชผลผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน นั้น ได้มีนโยบายสั่งการให้กรมอุทยานฯ แก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างแหล่งน้ำแหล่งอาหารในป่า การสร้างแนวป้องกัน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมช้าง รวมถึงเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า และการแก้ปัญหาในระยะยาวเพื่อให้คนและช้างป่าอยู่ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลล่าสุดในปี 2568 จนถึงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 พบว่า ช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์สร้างความเสียหายในกลุ่มป่าตะวันออก รวม 7 จังหวัด มีช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ 3,375 ครั้ง สร้างความเสียหายรวม 313 ครั้ง เป็นพืชผล 269 ครั้ง ทรัพย์สิน 23 ครั้ง คนเจ็บ 9 ราย และคนเสียชีวิต 12 ราย จึงได้สั่งการให้กรมอุทยานฯ เร่งจัดทำแผนที่ประชากรช้าง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลและอัพเดตประชากรช้างในแต่ละจุด และต่อยอดเป็นแอปพลิเคชัน เพื่อให้สามารถอัพเดตข้อมูลได้ทุกสัปดาห์ พร้อมกำชับให้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วดูแลเรื่องช้างในแต่ละพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลสถานการณ์ช้างและเป็นผู้คอยผลักดันช้างออกจากพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมอุทยานฯ พิจารณาแนวทางการคุมอัตราการเกิดของช้างในช่วงระยะเวลาหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายช้างป่าในพื้นที่ที่มีช้างป่าจำนวนมากและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความเร็วในการเพิ่มประชากรช้างป่าไม่ให้เพิ่มขึ้นเร็วเกินไป เนื่องจากขณะนี้ประชากรช้างในพื้นที่ป่ารอยต่อนั้นมีจำนวนมากและเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนเข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และพืชผลการเกษตร อีกทั้งต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง รวมถึงเจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่าต้องเสี่ยงอันตรายอย่างมากเช่นกัน