โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Kaew Pilates ที่อยากให้พิลาทิสสนุก เข้าถึงได้ กับ YPS คลับที่มีเพียงเสื่อผืนก็เล่นได้

Capital

เผยแพร่ 09 ก.ค. เวลา 10.59 น. • Insight

ย้อนไปสัก 10 ปีที่แล้ว ถ้าพูดว่าจะไปออกกำลังกาย คุณจะไปสถานที่ไหนและนึกถึงกิจกรรมอะไรบ้าง

บางคนอาจจะคิดถึงการเข้ายิม ไปยกเวตหรือคาร์ดิโอ

บางคนอาจจะคิดถึงการไปวิ่งในสวนสาธารณะ

แต่ในยุคปัจจุบันที่คนเริ่มใส่ใจตัวเองมากขึ้น เริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้คนเริ่มสนใจในศาสตร์ต่างๆ ที่ต้องใช้ตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวมากขึ้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมพิลาทิสถึงกลายเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายยอดฮิตของหนุ่มสาวสมัยนี้

“พิลาทิสมีเสน่ห์ตรงที่เราต้องรู้จัก posture ของเรา รู้จักสรีระของเรา แล้วทำท่าทุกอย่างแบบพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป เป็นกีฬาที่รู้สึกว่าน่ามหัศจรรย์มาก แค่หายใจเข้าแล้วทำท่าหนึ่ง หายใจออกทำอีกท่าหนึ่ง หรือแค่เปลี่ยนมูฟเมนต์และเปลี่ยนการหายใจ ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันแล้ว”

คำกล่าวจาก แก้ว–ธัญวษกา นวัตธามกุล หรือที่สายพิลาทิสทั้งหลายรู้จักกันในนามครูแก้ว ผู้ก่อตั้ง Kaew Pilates Studio สตูดิโอพิลาทิสชานเมืองขวัญใจชาวฝั่งธนฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์หลากหลาย มีคลาสพิเศษที่น่าสนใจมากมาย เช่น เล่นพิลาทิสจิบไวน์ เล่นพิลาทิสจิบมัทฉะ

ลีลาการสอนยังเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และไม่ว่าสภาพร่างกายแบบไหนก็ฝึกพิลาทิสได้ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Everyday Pilates for Everyone’ ไม่นานมานี้เธอยังก่อตั้ง YPS Pilates Club คลับสอนพิลาทิสแมตฟรี เพียงพกเสื่อ 1 ผืน น้ำดื่ม 1 ขวด และรองเท้า 1 คู่ไปที่สวนเบญจกิติ เพราะความตั้งใจสูงสุดคืออยากให้พิลาทิสเป็นการออกกำลังที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน

วันนี้เราเพียงแค่อยากชวนครูแก้วสนทนาถึงท่วงท่าการทำธุรกิจสไตล์ Kaew Pilates Studio ในมุมมองของคนที่เล่นพิลาทิสมาเป็น 10 ปี และเห็นการเปลี่ยนแปลงของวงการนี้มามากมาย ไปจนถึงการปลุกกระแสให้คนหันมาออกกำลังกายแบบไม่ฝืนใจตัวเอง และก่อเกิดชุมชนคนรักพิลาทิส ที่ทำให้คนอยากหยิบเสื่อสักผืนมาวาดลวดลาย เล่นพิลาทิสกันได้ทุกวัน

จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณสนใจพิลาทิสคืออะไร

ก่อนหน้านี้เราออกกำลังกายอยู่แล้ว เล่นมาทุกสไตล์ เล่นมาทุกอย่าง แต่เราชอบอะไรที่แปลกใหม่ พอได้มาลองเล่นพิลาทิส คิดว่ามันมีเสน่ห์ตรงที่เราต้องรู้จัก posture ของเรา รู้จักสรีระของเรา แล้วทำท่าทุกอย่างแบบพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป เป็นกีฬาที่รู้สึกว่าน่ามหัศจรรย์มาก แค่หายใจเข้าแล้วทำท่าหนึ่ง หายใจออกทำอีกท่าหนึ่ง หรือแค่เปลี่ยนการเคลื่อนไหว และเปลี่ยนการหายใจ ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันแล้ว

เพราะชอบเล่นพิลาทิสเลยมีส่วนให้ตัดสินใจมาเปิดสตูฯ เป็นของตัวเองด้วยไหม

ใช่ค่ะ เราอยากส่งต่อให้คนอื่นได้รู้จักพิลาทิส และรู้สึกเหมือนกันกับเราว่าพิลาทิสเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มาก ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าฉันต้องเป็นครู ถ้าเป็นครูฉันถึงจะสามารถเผยแพร่จุดนี้ให้คนอื่นรู้จักได้

ประกอบกับตอนนั้นเราจบ certificate ทุกอย่างหมดแล้ว ก็รู้สึกว่าที่เรียนมาทั้งหมดถ้าเราไม่ได้สอน ไม่ได้ฝึกเลย ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมา เราก็เริ่มซื้อเครื่องแต่ละเครื่องเข้ามาเรื่อยๆ สมัยก่อนพิลาทิสจะมีอุปกรณ์น้อยมาก มีแค่เสื่อออกกำลังกาย หรืออย่างมากก็แค่ตัวเครื่อง reformer แต่พอเราเรียนจบทุกหลักสูตรแล้ว มีเครื่องหลายๆ แบบแล้ว ก็เริ่มเปิดสอนจนสุดท้ายก็กลายเป็นสตูดิโอที่ชื่อว่า Kaew Pilates Studio

ความยากหรือความท้าทายในการเปิดสตูดิโอช่วงแรกๆ คืออะไร

เมื่อก่อนคนไม่รู้จักว่าพิลาทิสคืออะไร คนชอบคิดว่ามันคือโยคะ หรือยิมนาสติก หรือคือการยืดเหยียดธรรมดาๆ ความท้าทายคือเราจะต้องทำให้เขาเข้าใจถึงศาสตร์ของพิลาทิสและเห็นคุณค่าของมัน

แล้วด้วยความที่เราเริ่มเปิดสตูดิโอจากที่บ้าน เพราะไม่ได้คิดว่าต้องมีสาขาเยอะเหมือนทุกวันนี้ โลเคชั่นก็เลยไม่มีรถผ่าน ไม่มีอะไรเลย เป็นสตูดิโอเล็กๆ ความท้าทายคือคนจะมาไหม คนจะสนใจหรือเปล่า

คุณเปลี่ยนความท้าทายนั้นเป็นโอกาสได้ยังไง

ด้วยวิธีการสอนของเราที่พยายามทำสิ่งยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายๆ เพราะคนที่เดินเข้ามาเล่นพิลาทิสหรือคนเดินเข้ามาออกกำลังกาย บางคนเขาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์กีฬาหรือไม่ได้เป็นคุณหมอที่เขาจะรู้ posture จะรู้ว่ากระดูกซี่นี้เรียกว่าอะไร กล้ามเนื้อมัดนี้เรียกว่าอะไร เขารู้แค่อก หลัง ไหล่แค่นั้น เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจง่ายๆ

พอคนรู้สึกว่ามันไม่ได้ยากเหมือนที่คิด พอฝึกไปเขาก็จะเข้าใจง่าย ผลลัพธ์เลยเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

เป็นเหตุผลที่คุณนิยาม แก้วพิลาทิส ว่าเป็น ‘Everyday Pilates for Everyone’ ด้วยไหม

เราอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าสามารถออกกำลังได้ทุกวัน เพราะหลายๆ คนอาจจะคิดว่าแค่ออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงต่อวัน อย่างมากก็ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3-4 วัน ก็อาจแก้ปัญหาร่างกายที่มีได้ แต่ที่จริงแล้วพอคุณกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม อาการหรือปัญหานั้นๆ ก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี

เพราะฉะนั้นพอออกกำลังกายเสร็จแล้ว เราก็อยากให้เขากลับไปออกกำลังกายต่อได้ทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้เดินเข้าสตูดิโอก็ตาม มันถึงจะเห็นผลมากที่สุด เลยมาสู่คำว่า Everyday Pilates for Everyone เพราะอยากให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานการณ์ และไม่ว่าสภาพร่างกายจะเป็นยังไงก็ฝึกพิลาทิสได้

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Kaew Pilates Studio แตกต่างไม่เหมือนใครคืออะไร

สิ่งที่เรารู้สึกว่าแตกต่างคืออุปกรณ์ที่หลากหลาย เป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มเปิดสตูดิโอ ว่าจะต้องมีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง มันมาจากที่ส่วนตัวเราเป็นคนเบื่อง่าย ประกอบกับอยากให้เป็นไปตามคอนเซปต์คือ Everyday Pilates for Everyone อยากให้ทุกคนเข้ามาเล่นพิลาทิสได้ทุกวัน ถ้ามาแล้วเจอเครื่องเดียวทุกวันคนก็เบื่อ

วันนี้อาจจะเน้นยืด บางวันอาจจะเล่นเพิ่มความแข็งแรง บางวันอาจจะเสริมความบาลานซ์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถเดินเข้ามาในสตูดิโอเราได้ทุกวัน โดยที่ได้รับประสบการณ์ในแต่ละวันแตกต่างกัน ได้ฝึกกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน

ตอนนี้เราเลยมีทั้งเครื่อง reformer ที่ออกกำลังกายได้ครบทุกส่วน มี pilates barrel ที่เป็นตัวโค้งๆ เน้นเรื่องการยืด และเสริมสร้างความแข็งแรง มี pilates chair เป็นการฝึกลูกค้าที่มีทักษะขึ้นมาอีกสเตปหนึ่ง แล้วก็ฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ดี เช่น ต้นขา ก้น ทุกคนจะรู้เลยว่าถ้าเจอ chair แล้วขาล้าแน่นอน

ส่วนตัวที่เรามองว่าตอนนี้เริ่มเป็นพระเอก นางเอกของหลายๆ คน และพิลาทิสดังเพราะเครื่องนี้เลยก็คือ pilates cadillac เหมือนพวกที่ดาราเขาชอบทำท่าสวยๆ ตัวนี้เป็นมัลติฟังก์ชั่นที่ยืดได้ และได้ความแข็งแรงของร่างกายด้วย ซึ่งต้องฝึกเบสิกมาก่อนถึงจะทำท่าต่างๆ แล้วรู้ว่ามัดกล้ามเนื้อเราถูกใช้งานได้อย่างเต็มที่

แต่ถ้าเกิดว่าเรายังไม่ได้เรียนพวกเบสิกมา เราก็ทำท่าพวกนั้นได้ แต่จะเป็นการทำท่าที่ไม่ชาเลนจ์มาก วิธีการสอนก็จะแตกต่างกัน ต่อให้เป็นท่าเดียวกัน คุณสามารถถ่ายรูปทำท่าในช็อตเดียวกันได้ แต่กว่าที่คุณจะทำท่าไปถึงจุดที่คุณถ่ายรูปได้สวย ความรู้สึกจะต่างกันเลย

เรายังมีเครื่อง Collant เป็นการจำลองการเดิน มาจากที่เราเห็นว่าพื้นฐานการเดินนี่แหละที่สำคัญ เพราะถ้าเราเดินทิ้งน้ำหนักไม่ถูกที่ ก็อาจจะลามไปถึงหัวเข่า ทำให้เจ็บสะโพก เจ็บหลัง ไหล่เบี้ยว หลังคด ทั้งหมดก็เริ่มได้จากการเดินให้ถูกต้อง

เห็นว่ามีทั้งกรุ๊ปคลาสและไพรเวตคลาสด้วย ความแตกต่างของ 2 คลาสนี้คืออะไร

ไพรเวตเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวที่เราพยายามจัดสรรห้องต่างๆ ให้เป็นห้องที่ไพรเวตจริงๆ คือแบ่งขอบเขตอย่างชัดเจน แล้วก็มีอุปกรณ์ที่อยู่ในห้องมากกว่า 1 เครื่อง เพื่อที่เวลาลูกค้าเข้ามาเขาอาจจะได้เล่นในห้องที่ 1 เจออุปกรณ์แบบนี้ พอเข้าห้องที่ 2 เจออุปกรณ์แบบนี้ จะได้พัฒนาร่างกายให้มากขึ้น

ใน 1 ชั่วโมง ครูผู้ฝึกสอนจะอยู่กับลูกค้า 1 คน ทำให้ปรับโปรแกรมต่างๆ ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น วันนี้ลูกค้าอาจจะมีอาการบาดเจ็บมา วันนี้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวตึงเพราะไปวิ่งมา หรือวันนี้อยากยืดแต่ขา ก็สามารถบอกครูผู้สอนได้เลย ห้องไพรเวตยังเอาไว้รองรับบุคคลที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย เช่น คนที่เป็นกระดูกสันหลังคด กระดูกสันหลังปลิ้น เป็นคนท้อง หรือว่าผู้สูงอายุ ที่บางครั้งเวลาเล่นรวมกับคนอื่น เขาอาจจะเสี่ยงบาดเจ็บได้

ส่วนกรุ๊ปคลาสเราตั้งใจทำให้เป็นกรุ๊ปเล็กๆ ที่มีแค่ 4 คนต่อ 1 กรุ๊ปเท่านั้น เพราะว่าจะได้ดูแลให้ทั่วถึงมากขึ้น ลูกค้าจะได้ไม่รู้สึกว่าฉันเล่นตามเพื่อนไม่ทันจนอาจบาดเจ็บได้ จะทำให้ประสบการณ์หลังเล่นของเขารู้สึกไม่ดี

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กรุ๊ปคลาสและไพรเวตคลาส คนที่ไม่เคยเล่นสามารถเล่นได้ทั้งคู่ แต่เรา concern ว่าลูกค้าต้องเล่นคลาส foundation มาก่อน เพราะถ้าพื้นฐานไม่ดี ก็มีโอกาสบาดเจ็บได้อยู่ดี

https://www.tiktok.com/@capitalreadco/video/7523217290410609928

นอกจากคลาสปกติแล้ว ทำไมคุณถึงเลือกจัดคลาสพิเศษด้วย

การที่มีคลาสพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคลาสเล่นพิลาทิสจิบไวน์ คลาสเล่นพิลาทิสจิบมัทฉะ เราทำตามความชอบของตัวเอง เพราะว่าเราเป็นคนที่จะทำอะไรไม่ได้ ถ้าตัวเองไม่ชอบ เลยรู้สึกว่าทำไมเราไม่ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วทำให้สุขภาพดีไปด้วย

บางคนอาจจะไม่ได้ชอบออกกำลังกาย แต่เป็นสายปาร์ตี้ดื่มไวน์ ซึ่งตัวเราเองก็ดื่มไวน์ตลอด เราก็เห็นทุกคนที่เป็นสายดื่ม ตกกลางวันก็ออกกำลังกาย ถ้าเอามาทำคู่กันก็จะทำให้คนรักสุขภาพมากขึ้น พิลาทิสจะได้เข้าถึงคนได้มากขึ้น ในคลาสนี้เราจะให้คุณทั้งดื่มไวน์แล้วก็เล่นพิลาทิสไปในเวลาเดียวกัน คนจะรู้สึกว่ามันสนุกมากเลยนะ

อย่างตอนนี้ที่มัทฉะเป็นที่นิยมมากๆ เราก็ไปจับมือกับมัทฉะที่เราชอบกิน เพราะเราเป็นคนแพ้กาแฟ ดื่มกาแฟไม่ได้ คลาสนี้ก็กระแสตอบรับดีมาก บางคนอาจจะไม่ได้ชอบพิลาทิส แต่ชอบมัทฉะ พอลองมาเรียนพิลาทิส แล้วเราเพิ่มประสบการณ์เรื่องมัทฉะเข้าไป ได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของมัทฉะว่าเป็นยังไง เรียนวิธีตีมัทฉะ ทำเสร็จแล้วก็เอามัทฉะแก้วนั้นมาเล่นพิลาทิสต่อ คนก็จะรู้สึกว่าฉันได้ดื่มเครื่องดื่มที่ชอบ ได้สุขภาพดี และทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งรักตัวเองมากขึ้นด้วย

เห็นว่าสาขาส่วนมากอยู่แถวฝั่งธนฯ ทำไมคุณถึงเลือกขยายสาขาในทำเลนี้

ตอนนี้เรามีทั้งหมด 11 สาขา มี 8 สาขาที่อยู่แถวฝั่งธนฯ เพราะส่วนตัวเราเป็นเด็กฝั่งธนฯ ชอบการเดินทางในโซนนี้ เราไม่ชอบการเดินทางเข้าไปในโซนในเมืองที่รถติด ทำให้รู้สึกเหนื่อย แล้วเวลาคนจะเล่นพิลาทิส จะออกกำลังกายที่ไหนก็ต้องฝ่ารถติดเข้าเมือง พอไปถึงก็ขี้เกียจ เหนื่อย หิว อยากกินข้าว จากที่ปกติเขาไปอาทิตย์ละหลายวันพอเจอแบบนี้ก็ไม่อยากไปแล้วยกเลิกคลาส

แต่พออยู่ในโซนบ้านตัวเองหรือเป็นทางผ่านกลับบ้าน สามารถแวะเล่นก่อนกลับบ้านได้ ก็รู้สึกสบายกว่า เวลาเราจะเดินทางไปแต่ละสาขาก็รู้สึกว่าเป็นเส้นทางที่ลิงก์ต่อกันได้เลย เป็นเส้นบางบอน พระราม 2 เพชรเกษม ตลิ่งชัน ออกไปโซนราชพฤกษ์ เป็นโซนที่เราก็เดินทางไปสอนง่ายด้วย คนก็จะเข้าใจตัวตนของเราและรู้ว่า Kaew Pilates คือสตูดิโอพิลาทิสชานเมืองนะ

นอกจากเปิดสตูฯ เป็นของตัวเองแล้ว ทำไมคุณถึงเลือกทำ YPS Pilates Club

เป็นการตอกย้ำสิ่งที่อยากทำตั้งแต่แรก คืออยากให้คนเข้าถึงพิลาทิสได้ง่ายขึ้น ในเมื่อเราทำสตูดิโอแล้ว แต่บางครั้งคนก็ยังกลัวว่าฉันจ่ายตังค์ไปเล่น ฉันจะโอเคกับมันหรือเปล่า แล้วคลาสพิลาทิสก็ไม่ได้ราคาถูก เราไม่สามารถลดราคาลงไปต่ำกว่านี้ได้แล้ว

การเปิด YPS Pilates Club ให้คนมาเล่นพิลาทิสฟรี ก็เหมือนเป็นการโปรโมตให้คนเข้าถึงพิลาทิสได้ง่าย คนจะได้รู้ว่าเล่นแล้วสนุกไหม ได้รู้จักพิลาทิสมากขึ้น ถ้าเขารู้สึกว่าฉันชอบพิลาทิสแล้วนะ ก็ไปเล่นต่อตามสตูดิโอแถวบ้านเขาก็ได้

กิจกรรมที่เราจัดก็เน้นตอบโจทย์คนเมือง จัดสถานที่ในใจกลางเมือง แต่ละสัปดาห์จะสอนไม่เหมือนกัน บางสัปดาห์จะเป็นออฟฟิศซินโดรม บางสัปดาห์เป็น Sexy Line บางสัปดาห์เป็นแนว Burn, Lean, and Tone เป็นกิจกรรมที่เราคิดว่าทำยังไงก็ได้ให้คุณเอาแค่เสื่อผืนเดียว รองเท้า 1 คู่ ผ้าเช็ดหน้า 1 ผืน น้ำดื่ม 1 ขวดมาแล้วออกกำลังกายได้เลย

YPS Pilates Club ของคุณดูเหมือนเป็นการสร้างคอมมิวนิตี้ด้วย

ใช่ค่ะ เราอยากให้คนรู้สึกว่าได้มาออกกำลังกาย แล้วได้คอมมิวนิตี้ด้วย เพราะว่าจริงๆ ตัวคลับนี้ที่เราตั้งชื่อว่า YPS ย่อมาจาก Your PILATES Sister เหมือนกับว่าไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ก็จะมีพี่สาวน้องสาวอย่างเราที่เราจะคอยไกด์ไลน์การทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้คนรักสุขภาพมากขึ้น

ครั้งแรกที่เราจัดคิดว่ามีคนมาเล่นแค่ 20 คนก็พอใจแล้ว ปรากฏว่าครั้งแรกมีคนมา 100 คน หลังจากนั้นปั๊บกระโดดขึ้นมาเป็น 300 ขึ้นมาเป็น 500 คน ทุกวันนี้เราจัดมา 2-3 เดือนแล้ว มีคนมาเล่นปาไปเกือบ 600 คนใน 1 ครั้ง

เราคิดว่าที่ YPS Pilates Club ได้รับความนิยม มาจากที่คนบอกกันปากต่อปากด้วย เพราะเวลามาถึง จะมีเทรนเนอร์คอยดูแลตลอด เรามีแบ่งโซนเลยว่าคนนี้คอยดูแลโซนนี้นะ เพราะว่าเราต้องสอนโดยที่ห้ามใช้ลำโพง ห้ามมีเครื่องเสียง เราก็เลยยอมลงทุนใช้ครูในสตูดิโอของเรามาช่วยสอน มาคอยจัดท่า เพราะไม่ใช่ว่ามีคนนำอยู่ข้างหน้าแล้วใครจะทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวเสี่ยงบาดเจ็บได้

เรารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปสอน มันเติมเต็มแพสชั่นให้กับเรา ครูทุกคนก็รู้สึกเหมือนได้เติมเต็มหัวใจ ทุกวันนี้ต้องตื่นตี 5 เพื่อไปต้อนรับคนที่มาเล่นในคลับ บางคนกลับมาสอนต่อ แล้วตอนกลางคืนก่อนไปสอนเรามีซ้อมท่ากันด้วย พอไปถึงเห็นลูกค้าเล่นเสร็จแล้วมีความสุข เราก็แฮปปี้นะ

ทุกคนมีรอยยิ้มให้แก่กัน เราเห็นมีคนที่กลายเป็นเพื่อนกันจากในคลับนี้ แล้วเรามีนัดธีมสีชุดกัน บางคนก็มีการบอกว่าคนนี้ไม่เตรียมเสื้อสีนี้มา ฉันเอามาให้ยืมได้นะ บ้านอยู่ตรงไหนแวะรับได้นะ เล่นเสร็จมีนัดไปกินข้าวกันต่อ

ช่วงก่อนหน้านี้ฝนตกตลอด บางครั้งเราก็ยกเลิกกิจกรรม บางครั้งก็จัดต่อ พอเราไปถึงปุ๊บมีคนยืนรอให้ฝนหยุด กลายเป็นว่าฉันไม่รู้จักเธอ เธอไม่รู้จักฉันนะ แต่ช่วยกันเอาเสื้อมาคลุมกันฝน บางคนเอาร่มมากางให้ เป็นภาพที่น่ารักมาก ครูทุกคนก็ไม่ถอย อยู่รอจนฝนหยุด สุดท้ายวันนั้นก็ไม่ได้เล่นนะ เพราะฝนตกจนน้ำท่วมสนามหญ้า แต่ทุกคนก็แฮปปี้

กลายเป็นว่าหลายๆ คนยอมไปเล่นทุกสัปดาห์ เพราะอยากเจอพลังงานดีๆ แบบนี้ เรารู้สึกว่ามันเป็นมากกว่าการเล่นพิลาทิส แต่กลายเป็นคอมมิวนิตี้ที่คนรักพิลาทิส แล้วก็ได้ make friends ทำกิจกรรมไปด้วยกัน

คลาสเหล่านี้ถือว่าสำเร็จแค่ไหน เพราะเห็นว่ามีกิจกรรมที่จับมือกับแบรนด์อื่นๆ ด้วย

เราได้คอลแล็บกับแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Garmin แบรนด์ MizuMi และแบรนด์อื่นๆ อีกหลายแบรนด์ เพราะเขาเห็นว่ากิจกรรมของเรากระแสตอบรับดีมาก ถ้าได้มาคอลแล็บกับเราในการทำกิจกรรม ก็จะได้กระจายฐานลูกค้ามากขึ้นด้วย

เพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่เริ่มอยากให้หันกลับมารักตัวเองกันมากขึ้น เหมือนที่เขาชอบบอกกันว่ารักตัวเองไม่เจ็บเลยสักวัน แต่ละแบรนด์ก็อยากทำให้เป็นคอมมิวนิตี้ อยากให้เกิดกิจกรรมของคนรักสุขภาพ ต่อให้เป็นแบรนด์อะไรที่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพก็เชื่อมโยงถึงกันได้ เพราะมันคือไลฟ์สไตล์ คือการใช้ชีวิตจริงๆ ของแต่ละคน

เหมือนบางคนเวลาแต่งตัวสวยก็อยากไปออกกำลังกาย เหมือนที่เขาบอกว่าถ้าชุดสวยก็มีแรงไปกว่าครึ่ง ถ้าชุดไม่สวยมันรู้สึกว่าไม่อยากมาออกกำลังกาย (หัวเราะ) คือมันก็มีจุดอื่นที่เราสนใจแล้วก็จะดึงเรากลับมาออกกำลังกายได้ด้วย

จากประสบการณ์เหล่านี้ คุณคิดว่าการออกกำลังกายในสมัยก่อนกับตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

คิดว่าแตกต่างกันตรงที่สมัยก่อนถ้าพูดว่าจะไปออกกำลังกาย ทุกคนจะเดินเข้าไปที่ยิม ไม่ยกเวตก็คาร์ดิโอเพื่อให้ตัวเองสุขภาพดี แล้วหลายๆ คนก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องระวังไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บคืออะไร

แต่พอปัจจุบันคนเริ่มใส่ใจตัวเองมากขึ้น เริ่มหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้คนเริ่มสนใจในศาสตร์ต่างๆ ที่ต้องใช้ตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวมากขึ้น ไม่ใช่ออกกำลังแล้วใช้แต่แรงอย่างเดียว

พอช่วงหลังที่พิลาทิสเข้ามา ก็ตอบโจทย์คนที่อยากหุ่นลีน แต่ว่าไม่อยากยกเวตหนักๆ และยังมีความเหนื่อยจากข้างใน ซึ่งความเหนื่อยนี้ถ้าคนไม่เคยลองเล่น ก็จะอธิบายไม่ได้จริงๆ ว่าเหนื่อยแบบไหน ต้องมาลองดูแล้วจะรู้สึกว่าลีนจากข้างในเป็นยังไง กล้ามเนื้อบางมัดที่ถูกใช้เราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกล้ามเนื้อมัดนี้อยู่ในร่างกายด้วยเหรอ

ในอนาคตคุณอยากเห็น Kaew Pilates และ YPS Pilates Club เติบโตไปในทิศทางไหน

เราอยากให้คนรู้จักมากขึ้นกว่าเดิม อยากจะใส่กิจกรรมต่างๆ เข้าไป เพื่อให้ lively มาขึ้น แล้วก็ตอบโจทย์กลุ่มคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนรู้สึกว่ามาเล่นพิลาทิสแล้วสนุกไปกับมัน มีคลาสหลากหลายไม่น่าเบื่อ

ส่วน YPS Pilates Club ก็รู้สึกว่าน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ อยากจะเห็นภาพคอมมิวนิตี้ที่แข็งแรงมากขึ้น จากตอนแรกที่เราจัดแค่ตอนเช้า เดี๋ยวนี้ก็มีจัดตอนเย็นเพิ่มขึ้นมา แล้วก็มีแผน on tour ไปตามสวนต่างๆ เพื่อกระจายให้คนเข้าถึงได้ง่าย เข้าใกล้คนได้เยอะขึ้นในหลายๆ จุด

ตอนนี้เรายังแตกไลน์ไปทำอีกแบรนด์ชื่อ BFF เป็นสตูดิโอพิลาทิสที่โลเคชั่นจะเข้าไปอยู่ในเมืองมากขึ้น มีสาขาแรกเปิดที่สุขุมวิท 32 แล้ว สตูดิโอนี้จะแตกต่างจาก Kaew Pilates ตรงที่เราจะชูอีกอุปกรณ์หนึ่ง ที่พกพาได้ เพราะเราเชื่อว่าในเมืองพื้นที่น้อย ถ้าบางคนอยากออกกำลังกายแล้วลงทุนซื้อเครื่องตัวใหญ่ๆ มาไว้ในคอนโดก็ลำบาก เราเลยพยายามชูตัวอุปกรณ์ที่เล็กลง แต่ยังใช้ศาสตร์ของพิลาทิสมาเล่น เน้นความแข็งแรงในการยืดทุกส่วนของร่างกายในเครื่องเดียว แล้วก็อยากขยายแบรนด์นี้ให้เป็นที่รู้จัก

เหมือนที่ทุกวันนี้คนรู้จัก Kaew Pilates

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Capital

Camp Safari ลานแคมป์ใกล้เมืองที่เปิดให้ถ่ายหนัง ขายสินค้าแรร์ และรับลูกค้าแบบ exclusive

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คอลัมน์ดวง 12 ราศี ในหนังสือพิมพ์อังกฤษ ที่ทำให้โหราศาสตร์แมสในสื่อถึงทุกวันนี้

09 ก.ค. เวลา 23.09 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

4 ครูอัตราจ้าง น้ำตาคลอ ร้องถูก 'ผอ.คนใหม่' เลิกจ้างกลางเทอม ไม่แจ้งล่วงหน้า

MATICHON ONLINE

แฉอีก เจ้าคณะจว.พิจิตร เคยถูกร้องเสพสีกากอล์ฟ ตั้งแต่ปี 59 - ล่าสุดขอสึกจริงแต่ยังไร้เงา

MATICHON ONLINE

Never A Waste Of Time เมื่อรักที่จบลงยังคงสวยงามเสมอ ซิงเกิลล่าสุดจาก Tilly Birds

THE STANDARD

เข้าใจตัวละคร How to Train Your Dragon เมื่อมนุษย์ไม่อาจเติบโตได้เพียงลำพัง

PPTV HD 36

‘แฟนไม่อยู่ หนูร่าเริง’ คำแซวจากเพื่อนของแฟนที่บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องตลกในความสัมพันธ์ เมื่อมุกที่คนพูดแค่ขำๆ อาจทำให้เกิดรอยร้าวในใจคน

Mirror Thailand

Tan Jianci ถูกแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Roger Vivier

THE STANDARD

งดงามชุ่มฉ่ำ “น้ำตกตาดฟ้า” กลางผืนป่าภูเวียง จ.ขอนแก่น

Manager Online

สำนักพุทธฯ เครียด ไม่เคยเจอวิกฤต นารีพิฆาต ข้องใจ ทำไมผู้หญิงคนเดียว เอี่ยวพระจำนวนมาก

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

5 ความท้าทายที่ ‘ไทน์ กรกนก’ ใช้ทำ Valichain จิวเวลรีที่ใส่ได้ทุกวัน ไม่ลอก ไม่ดำ

Capital

‘คำโตๆ’ มิติใหม่ของเอเจนซีที่ปั่น ทันกระแส ตามสไตล์ของเพจเนื้อแท้ที่หยิบจับอะไรก็ไวรัล

Capital

ความบ้าพลังของ Pantang Artwork ผู้อยู่เบื้องหลัง สงคราม ส่งด่วน, อย่ากลับบ้าน, นิทรรศการโดราเอมอน

Capital
ดูเพิ่ม
Loading...