เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 สารพัดปัญหา แก้ไม่จบ โรงแรมหวั่นลงทะเบียนไม่ทัน 31 ก.ค.นี้
โครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ที่ในขณะนี้ไม่เพียง ปิดระบบลงทะเบียนใหม่ สำหรับประชาชนชั่วคราว เพื่อแก้ไขระบบที่เกิดขึ้นเท่านั้น ในส่วนของฝั่งผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง ก็มีปัญหาที่ยังแก้ไขไม่เสร็จเช่นกัน
อีกทั้งประชาชนรัฐที่ลงทะเบียนไปแล้ว ก็มีปัญหาการถูกระบบตีกลับ โดยแจ้งว่ารัฐบาลจะสนับสนุนเงินร่วมจ่ายตลอดระยะเวลาโครงการไม่เกิน 5 สิทธิ์ ต่อหมายเลขประจำตัวประชาชน โดยประชาชน 1 คนจะพักได้แค่ 1 ห้อง/เตียงเท่านั้น ระบบจะไม่สามารถดำเนินการห้องผู้จองที่มีจำนวนห้องพักมากกว่า 1 ห้องในคืนเดียวกันจองได้ ทำให้คนที่จองจำนวนห้องพักมากกว่า 1 คืน ถูกตีกลับ
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ล่าสุดสมาคมโรงแรม และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้ประชุมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อแก้ไขปัญหาระบบโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ที่เปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
จากการหารือร่วมกันผ่านช่องทางออนไลน์ ททท.ได้แจ้งว่าในวันที่ 10-11 กรกฎาคมนี้จะเปิดระบบให้แต่ละโรงแรมเข้าไปแก้ไขราคาขายห้องพักได้ใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาอาจมีการลงราคาคลาดเคลื่อน
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้ประกอบการโรงแรม คาดว่าต้องใส่ราคาเป็นอัตราเริ่มต้นและสูงสุด แต่ราคาห้องพักที่แสดงขณะนี้ถูกเลือกในระดับสูงสุด และไม่สามารถแก้ไขได้
ทำให้โรงแรมถูกร้องเรียนว่าตั้งราคาสูงกว่าปกติ ดังนั้นททท.จึงอนุญาตให้ผู้ประกอบการเข้าไปแก้ไขราคาใหม่ โดยกำหนดเป็นวันธรรมดาและวันหยุด โดยปัญหา คือ การกำหนดวันธรรมของ ททท.นับจันทร์-ศุกร์ แต่โรงแรมนับถึงวันพฤหัสบดีเท่านั้น วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ถือเป็นวันหยุด ซึ่ง ททท.แจ้งว่าไม่สามารถแก้ไขระบบได้
จริงๆแล้วผมมองว่าตัวระบบจริงๆ ควรแก้ไขให้ได้ ทำให้การประชุมร่วมกันครั้งนี้ถือว่ายังตอบข้อสงสัยและปัญหาของผู้ประกอบการไม่ได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามททท.ได้แจ้งว่าจะเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าไปแก้ไขได้ในคืนวันพรุ่งนี้ หรือคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่าพรุ่งนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเลยหรือไม่ และกำหนดสิ้นสุดการแก้ไขจนถึงช่วงใด
ทำให้อาจต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง คำถามคือ ทำไมไม่มาคุยกับผู้ประกอบการก่อน ทั้งที่มีเวลาก่อนเริ่มต้นโครงการค่อนข้างนาน จากช่วงที่ประกาศว่าจะมีโครงการนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
อีกทั้งยังพบปัญหา ททท.แจ้งว่าเป็นระบบที่กำหนดสิทธิในการเข้าพักของประชาชนแบ่งเป็นเมืองหลัก 3 สิทธิหรือห้องพัก เมืองรอง 2 สิทธิ หากการจองไม่เข้าเงื่อนไข แต่โรงแรมรับจองไปแล้ว ในส่วนนี้ ททท.แจ้งว่าขอให้ผู้ประกอบการช่วยทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวด้วย ทั้งๆที่ในความจริงควรเป็นหน้าที่ของ ททท.ในการประกาศเงื่อนไขที่ชัดเจนและทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่การผลักให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบ
อีกทั้งขั้นตอนการทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้กำหนดว่าเป็นธนาคารอะไร แต่ขณะนี้เพิ่งมาแจ้งผู้ประกอบการโรงแรม ว่า ทุกขั้นตอนต้องผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้มีความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว เท่ากับว่าหากระบบไม่ให้ใช้ธนาคารอื่น เท่ากับจะไม่ได้รับส่วนสนับสนุนจากรัฐบาลที่สมทบให้หรือไม่ ซึ่งก็เป็นความกังวลของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเงื่อนไขการลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเดียวกันไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่โรงแรมจะมีร้านอาหาร หรือร้านสปาในโรงแรม และใช้เป็นเลขประจำตัวเดียวกัน แต่ระบบของ ททท.ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนด้วยเลขตัวเดียวกัน ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในโครงการอาจไม่สามารถใช้บริการร้านอาหาร หรือนวดสปาในโรงแรมได้
ทั้งที่ความจริงควรใช้ได้เหมือนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในฝั่งโรงแรมก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน และไม่มีกระบวนการชัดเจน อาทิ หากทุกอย่างผ่านการตรวจสอบของ ททท.หมด ต้องรอธนาคารกรุงไทยตรวจสอบอีกครั้ง และสถานะจะขึ้นว่ารอพิจารณา แต่หากไม่ผ่านและต้องเพิ่มเติมอะไรไม่ได้มีบอกรายละเอียดในส่วนนี้ ทำให้กังวลว่าจะลงทะเบียนไม่ทันในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ตามกำหนดที่ททท.วางไว้