SAWAD กำไร Q2/68 ไม่สวย เข้มปล่อยสินเชื่อ

หุ้นวิชั่น- SAWAD นักวิเคราะห์ฯ คาดกำไรไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ระดับ 1-1.1 พันล้านบาท ปรับตัวลงจาก QoQ และ YoY จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่คาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะในแง่ของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จากคาดการณ์ว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะหนุนให้กำไรดีขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จํากัด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จํากัด กล่าวว่า คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2568 จะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่อาจปรับตัวขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นไปตามภาพของสินเชื่อที่ชะลอตัวลง แต่ให้จับตาดูในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์หากกลับมาดีขึ้น จะเป็นแรงหนุนได้

ขณะที่มองแนวโน้มครึ่งปีหลังจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) โดยเลือก SAWAD เป็นหุ้น Top Picks ในกลุ่มไฟแนนซ์ สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ จากความคาดหวังว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าจะปรับลงราว 1-2 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีโดยตรงต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของบริษัท ทำให้แนวโน้มกำไรน่าสนใจมากขึ้น และคาดการเติบโตของสินเชื่อปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5-10% ได้แรงหนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก และการขาดทุนรถยึดจะค่อยๆ ลดลง

ด้าน Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง 6.8 เท่า ถูกสุดในหุ้นจำนำทะเบียนขนาดใหญ่ แนะนำ ทยอยซื้อ ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท

“เรามองคล้ายกับ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH โดย Performance อาจจะยังช้ากว่าชาวบ้าน หากเทียบกับ บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR และ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ที่ผลการดำเนินงานน่าจะดีกว่า รวมถึงสัญญาณของคุณภาพสินทรัพย์ก็น่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตามแม้คาดว่าในภาพของไตรมาส 2/2568 ของ SAWAD จะถอยลงไปบ้าง เมื่อเทียบ QoQ จากสินเชื่อไม่ได้โดดเด่น แต่ครึ่งปีหลังเชื่อว่า NIM และการขาดทุนรถยึดจะเบาลงเรื่อยๆ หนุนผลงานค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา” นายวิจิตร กล่าว

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

บล.ทรีนีตี้ คาด SAWAD กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 จะปรับตัวลดลงทั้ง QoQ และ YoY

กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,054 ล้านบาท (-16.7% YoY, -4.2% QoQ) จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ของลูกหนี้เป็นหลัก และความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยกำไรรวม 2 ไตรมาส คิดเป็น 52.2% ของประมาณการทั้งปี

• พอร์ตสินเชื่อคาดว่าจะอยู่ที่ 9.04 หมื่นล้านบาท -9.4% YoY และ -1.0% QoQ มีสาเหตุหลักเนื่องมาจากกลยุทธ์การอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดจากนโยบายของฝ่ายบริหารที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ของลูกหนี้เป็นหลัก
• cost to income คาดว่าจะอยู่ที่ 53.3% จาก 55.9% ในไตรมาส 1/2568 ลดลง 257 bps มาจากค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารที่ลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงาน และ ผลขาดทุนจากการขายรถยึด
• NIM คาดว่าจะอยู่ที่ 14.1% จาก 14.8% ในไตรมาส 1/2568 ลดลง 67 bps โดยได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากเน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มคุณภาพดี แม้ต้นทุนทางการเงินจะลดลงบ้างก็ตาม
• NPL คาดว่าจะอยู่ที่ 3.83% ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 จากการฐานสินเชื่อที่ลดลง และ นโยบายการเพิ่มดาวน์รถมอเตอร์ไซค์
• credit cost คาดว่าจะอยู่ที่ 1.8% จาก 1.5% ใน 1/2568 เพิ่มขึ้น 31 bps มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ และ ความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
• Coverage ratio คาดว่าจะอยู่ที่ 61.1% เพิ่มขึ้นจาก 55.9% ในไตรมาส 1/2568 และ 51.3% ในไตรมาส 2/2567

แนวโน้มปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 10-15% ทั้งจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ผ่านสาขาที่มีอยู่

กว่า 5,600 แห่ง นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนจะควบคุม NPL ให้อยู่ระหว่าง 3-4% และ Credit cost ให้อยู่ระหว่าง 1.8-2.0%

ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ลง 23.1% เพื่อสะท้อนความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้น ทำให้ได้คาดการณ์กำไรปี 2568 ใหม่ที่ 4,126 ล้านบาท (18.3%YoY) เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว บวกกับมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์สูงจากสัดส่วนสินเชื้อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์สูง ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัด จึงแนะนำเพียง “ถือ” ราคาเป้าหมาย 20 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

2Q68 คาดกําไรทรงตัว QoQ, ลดลง YoY

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาด คาดว่ากําไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ของ SAWAD จะลดลงเล็กน้อย 1% QoQ แต่จะลดลง 14% YoY มาอยู่ที่ 1.09 พันล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ คาดว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) จะอยู่ในระดับทรงตัว (สินเชื่อทรงตัว, NII ดีขึ้นตามฤดูกาล) non-NII ค่อนข้างทรงตัว credit cost จะสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานจะลดลงจากขาดทุนรถยึดที่ลดลง

คาดว่า credit cost ไตรมาส 2/2568 จะเพิ่มขึ้น 19 bps QoQ แต่ลดลง 15 bps YoY มาอยู่ที่ระดับ 2% เนื่องจาก NPL ยังไหลเข้าสูง โดยเฉพาะจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จึงคงประมาณการ credit cost ปี 2568 ไว้ที่ 7 2.05% (+4 bps) เทียบกับเป้าของบริษัทที่ 1.8-2% ในไตรมาส 1/2568 ปรับประมาณการ credit cost ปี 2569 เพิ่มขึ้น 5 bps เป็น 2.05% เพื่อสะท้อนแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในปี 2569

สินเชื่อหดตัวเพราะอยู่ในโหมดระมัดระวัง เพื่อสะท้อนความระมัดระวังมากขึ้นในด้านคุณภาพสินทรัพย์และการเร่งตัดหนี้สูญ จึงคงประมาณการไว้ว่าสินเชื่อจะหดตัวลง 1% ในปี 2568 เทียบกับที่หดตัวลง 4% ในปี 2567 และ 2.5% YTD ในไตรมาส 1/2568 คาดว่าสินเชื่อจํานําทะเบียนจะเติบโตเล็กน้อย และสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์จะหดตัวในปี 2568 คาดว่าสินเชื่อจะอยู่ในระดับทรงตัวในไตรมาส 2/2568

NIM ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่า NIM จะฟื้นตัว QoQ ใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จากระดับต่ำสุดที่ 14.5% ในไตรมาส 1/2568 อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ใช้สมมติฐานว่ามีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงมาอยู่ที่ 1.25% ภายในสิ้นปี 2568) อย่างไรก็ตามคาดว่า NIM จะลดลง 110 bps ในปี 2568 อันเป็นผลมาจากอัตราผลตอบแทนจากเงินให้สินเชื่อที่ลดลงจากการมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ผลตอบแทนสูงลดลงและการกําหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าสินเชื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่ 23% ตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 คาดว่า NIM จะขยายตัว 13 bps ในปี 2569 อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง

คาดกําไรสุทธิปี 2568 ลดลงแรง คงประมาณการไว้ว่าจะเห็นกําไรสุทธิลดลง 14% ในปี 2568 (EPS -22%) จาก NII ที่ลดลง และ credit cost ที่สูงขึ้น

อยู่ระหว่างพิจารณากลับมาจ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนการจ่ายเป็นหุ้น SAWAD อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะกลับมาจ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนการจ่ายเป็นหุ้นในปี 2568 ด้วยอัตราการจ่ายเงินปันผล 30-50% บริษัทยังไม่ได้ทําการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เมื่อใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล 30% คาดว่า DPS ปี 2568 จะอยู่ที่ 0.79 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีที่ 4.4%

ปรับคําแนะนําลงสู่ NEUTRAL และคงราคาเป้าหมาย เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว 21% หลังจากปรับคําแนะนําขึ้นครั้งล่าสุดในช่วงที่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับต่ำสุด YTD ในเดือนมิ.ย. จึงปรับลดคําแนะนําสําหรับ SAWAD กลับลงมาอยู่ที่ NEUTRAL เนื่องจากกําไรมีแนวโน้มอ่อนแอ คงราคาเป้าหมายไว้ที่ 20 บาท (อ้างอิง PBV 0.8 เท่า หรือ PE 7 เท่า สําหรับปี 2568)