เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตาคลิปเสียง ‘นายกฯอิ๊งค์’ พ่นพิษไม่เลิก
ยังพ่นพิษไม่เลิก อันเนื่องมาจากปมคลิปเสียงระหว่าง “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม และ "สมเด็จฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และสั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จนหลายฝ่ายประเมินถึงวิบากกรรมในทางลบของหัวหน้ารัฐบาล
ล่าสุดในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน กรณี น.ส.แพทองธาร กระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เกี่ยวกับความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยมีนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวนด้วย นั่นหมายความว่าสององค์กรอิสระได้ก้าวเข้ามาตรวจสอบหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งนายกฯ และทีมกฎหมายต้องทำงานหนักอย่างแน่นอน
ด้าน "นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์" ประธานศาล รธน. กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังศาล รธน.มีมติให้ น.ส.แพทองธาร ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากกรณีคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และให้ส่งเอกสารหลักฐานชี้แจงภายใน 15 วัน ว่า สามารถขอขยายเวลาในการส่งเอกสารได้หลายครั้ง ส่วนจะกี่ครั้งนั้น ขอให้ศาล รธน.ได้คุยกันก่อน แต่อย่างน้อยสามารถขอขยายระยะเวลา 1 ครั้งได้อยู่แล้ว นอกจากประธานศาล รธน.ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาจริยธรรมว่ามีขอบข่ายอย่างไร รวมถึงไม่กล่าวถึงกรอบระยะเวลาในการพิจารณาคดี ไม่เช่นนั้นตุลาการจะถูกตั้งข้อกังขาว่าเร่งรัดหรือถ่วงคดี โดยย้ำว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการ
ส่วน "นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" เลขาธิการนายกฯ ให้ความเห็นถึงคำชี้แจงของนายกฯ ที่จะต้องชี้แจงต่อศาล รธน.ภายใน 15 วันว่า กำลังเตรียมการอยู่ หากทำไม่ทันก็ต้องมีการขอยืดเวลา ส่วนจะให้นายวิษณุ เครืองาม หัวหน้าทีมกฎหมายรัฐบาลมาช่วยหรือไม่นั้น คิดว่าข้อเท็จจริงต้องมาก่อน ที่ปรึกษากฎหมายทุกคน ที่มีข้อแนะนำดี ๆ เราก็รับฟัง ความเป็นจริงเจตนาที่รักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ แม้แต่กระบวนการที่ทำผ่านมา เราถูกเขาใช้ประโยชน์จากวิธีการต่าง ๆ เช่น กรณีการปล่อยคลิปเสียงสนทนาออกมาเผยแพร่ เราไปฟังเนื้อหา เจตนาเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ด้วยวิธีที่เราต้องการจะสื่อสารกับบุคคลที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของรัฐบาลด้วยซ้ำ จะเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ศาล รธน. และทำให้เห็นเจตนา เมื่อถามอีกว่า นพ.พรหมินทร์ นายภูมิธรรม รมว.การต่างประเทศจะไปเป็นพยานให้ได้ใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า แน่นอนที่สุด ที่สำคัญคือหารือใกล้ชิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องของกองทัพ และไม่มีอะไรตามที่มีการกล่าวหา
หลายฝ่ายคงติดตามผลการวินิจฉัยของศาล รธน. และป.ป.ช. ด้วยความระทึก เพราะถ้าหากบทสรุปออกมาในทางลบ นั่นหมายความว่า การเมืองจะเปลี่ยนไปในทันที
ในที่สุดก็เป็นไปตามข่าวลือ หลัง "นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีปัญหาทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ส่งจดหมายไปให้นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงภายในเวลา 7 วัน ว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลปกครอง และศาลฎีกา หากภายใน 7 วันไม่มีความชัดเจน ก็จะเซ็นตั้งคณะกรรมการได้ทันที ซึ่งให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาดูว่า คณะกรรมการจะต้องประกอบด้วยใครบ้าง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคลางแคลงใจ และมีความไม่สบายใจ รวมถึงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนจำนวนมาก จึงต้องการทำให้เกิดความชัดเจน ถ้าชัดเจนสังคมก็จะเกิดความสบายใจ ซึ่งต้องไปถามว่า เหตุผลใดจึงไม่ดำเนินการตามคำสั่งของศาลฯ โดยเฉพาะคำตัดสินของศาลปกครอง และศาลฎีกา
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบต่อตำแหน่งของอธิบดีกรมที่ดินด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ปัญหา หากทำสิ่งที่ดีก็ได้ ไม่มีผลกระทบ แต่หากไปทำอะไรนอกกรอบ หรือนอกความจำเป็น หรือไปเอื้อประโยชน์ต่อใครก็จะมีผลกระทบแน่นอน เมื่อถามว่า จะถือโอกาสสางคดีที่ดินอัลไพน์ด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะดำเนินการทุกคดีไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งจะดำเนินการทั้งสองคดี ยืนยันว่าอะไรที่คลางแคลงใจจะเคลียร์ให้หมดทุกประเด็น
ด้าน “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย พยายามเช็กบิลกรณีที่ดินเขากระโดงว่า อย่าให้เป็นการเช็กบิล หากพวกตนกลับไปก็เช็กบิลได้ต่อ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร สมัยที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย ทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน ข้าราชการกรมที่ดิน ก็ยืนยันมากันหมดว่าได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รัฐมนตรีไม่มีสิทธิที่จะสั่งการใดๆ ส่วนใหญ่รัฐมนตรีที่เข้ามาใหม่ๆ ก็พูดแบบนี้ทั้งนั้น ถ้าทำแล้วไม่พบความผิดใดๆ ก็ขอให้รัฐมนตรีได้กรุณาออกมามีจิตใจเป็นนักกีฬา แจ้งให้พี่น้องประชาชนได้ทราบด้วยว่า ไม่พบการกระทำที่ผิดใดๆ เมื่อถามว่า รมว.มหาดไทย พยายามเอาข้าราชการสีน้ำเงินออก โดยขีดเส้นกรณีเขากระโดง ภายใน 7 วันนั้น ไม่เช่นนั้นจะสั่งเด้ง นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่มีอำนาจ ถ้าใช้อำนาจที่เป็นธรรม ความสงบสุข ความผาสุกจะเกิดขึ้นแต่ถ้าใช้อำนาจไม่เป็นธรรม อำนาจก็จะกลับมาทำลายตัวเอง ในที่สุดถ้าจะให้ดีพ้นเวรพ้นกรรม ต้องให้พรรค ภท. เข้าไปบริหารบ้านเมือง
ก่อนหน้านั้น ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่ รฟท. (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง กรมที่ดิน กับพวกรวม 3 ราย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่ ซึ่งสรุปได้เป็น 4 ข้อหา คือ
1. รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0561.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวน การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 2. รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมที่ดิน (อธิบดีกรมที่ดิน) และปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งได้มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ กรณี รฟท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์
3. รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดิน และอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบ ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดในพื้นที่ของ รฟท. ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร 4. รฟท. ขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง
โดยศาลปกครอง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาบางข้อหา ได้แก่ ข้อหาที่ 3 และข้อหาที่ 4 เนื่องจากเห็นว่า มีข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดี และคําขอบังคับในลักษณะเดียวกันกับประเด็นที่ศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว หรือ เป็นการฟ้องซ้ำ ในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก
ต้องรอดูกระบวนการตรวจสอบเรื่องที่ดินเขากระโดง เพราะ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรค ภท.ในฐานะ อดีตรมว.มหาดไทย ก็ยืนยันดำเนินการอย่างถูกต้อง และศาลปกครองกลางก็มีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้อง กรณี รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดิน และอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ และรฟท. ขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. เพราะศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว หรือ เป็นการฟ้องซ้ำ
"ทีมข่าวการเมือง"