โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อินเดียทะยาน พลังงานทดแทนฟอสซิลแตะ 50% ก่อนกำหนดปี 2030

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อินเดียประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการมีสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งจากแหล่งพลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิลถึง 50% ซึ่งเร็วกว่ากำหนดภายใต้เป้าหมายที่ระบุใน "การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดขึ้นเอง" (NDCs) ตามข้อตกลงปารีสถึง 5 ปี

ความสำเร็จสำคัญนี้สะท้อนถึงพันธกิจที่แน่วแน่ของประเทศต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งสัญญาณว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของอินเดียไม่เพียงเป็นเรื่องจริง แต่ยังดำเนินไปอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานใหม่และพลังงานทดแทน กล่าวว่า ในโลกที่กำลังแสวงหาแนวทางแก้ไขด้านสภาพภูมิอากาศ อินเดียได้แสดงให้เห็นแนวทางที่เป็นไปได้ การบรรลุกำลังผลิตจากแหล่งที่ไม่ใช่ฟอสซิล 50% ก่อนเป้าหมายในปี 2030 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของคนอินเดียทุกคน การนำของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ยังคงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภารตะ โดยปูทางไปสู่อนาคตที่พึ่งพาตนเองและยั่งยืน”

ความก้าวหน้าขับเคลื่อนด้วยนโยบายเร่งการเติบโตของพลังงานสะอาด

ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงการออกแบบนโยบายอย่างมีวิสัยทัศน์ การดำเนินการที่กล้าหาญ และพันธกิจลึกซึ้งของประเทศต่อความเป็นธรรมและความรับผิดชอบด้านสภาพภูมิอากาศ โครงการหลักต่าง ๆ เช่น PM-KUSUM, PM Surya Ghar: Muft Bijli Yojana, การพัฒนาอุทยานพลังงานแสงอาทิตย์ และนโยบายพลังงานลม-แสงอาทิตย์แบบผสมผสานแห่งชาติ ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งต่อการเปลี่ยนผ่านนี้

ภาคพลังงานชีวภาพ ซึ่งเคยเป็นเพียงส่วนชายขอบ บัดนี้ได้กลายเป็นภาคส่วนสำคัญทั้งในแง่การสร้างรายได้ในชนบทและการผลิตพลังงานสะอาด

โครงการ "Pradhan Mantri Kisan Urja Suraksha evam Utthaan Mahabhiyan" (PM-KUSUM) ได้ให้อำนาจแก่เกษตรกรหลายแสนรายโดยจัดหาปั๊มพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เกษตรกรรมมีความมั่นคงด้านพลังงานและยั่งยืน โครงการนี้ยังเปิดทางให้กับแนวทาง “Agrovoltaics” และการติดตั้งแผงโซลาร์ในระดับสายส่ง

โครงการ PM Surya Ghar ซึ่งเริ่มในปี 2024 ได้สร้างการปฏิวัติโซลาร์บนหลังคาบ้าน โดยทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงครัวเรือนหนึ่งโคร (สิบล้าน) หลังคาเรือน สนับสนุนการผลิตพลังงานแบบกระจายศูนย์ และให้อำนาจแก่ประชาชนในฐานะเจ้าของพลังงาน

ขยายฐานพลังงานหมุนเวียน

อุทยานพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วประเทศเอื้อให้เกิดการติดตั้งพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในราคาประมูลต่ำเป็นประวัติการณ์ พลังงานลม โดยเฉพาะในรัฐคุชราตและรัฐทมิฬนาฑู ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการไฟฟ้าช่วงพีคตอนเย็นของประเทศ

ภาคพลังงานชีวภาพก้าวหน้าอย่างมาก สนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียน และสร้างงานอย่างมีนัยสำคัญในชนบท

ความริเริ่มเหล่านี้ไม่เพียงลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงาน แต่ยังก่อให้เกิดผลพลอยได้ร่วมในวงกว้าง ได้แก่ การเข้าถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้น การสร้างงาน การลดมลพิษทางอากาศ ผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้น และรายได้ในชนบทที่เข้มแข็งขึ้น

การปฏิวัติพลังงานสะอาดของอินเดียไม่ใช่แค่เรื่องการลดการปล่อย แต่ยังสะท้อนการเติบโตแบบมีส่วนร่วมและความยุติธรรมทางสังคม

บทบาทผู้นำของอินเดียในเวทีโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความก้าวหน้าของอินเดียยิ่งมีความหมายเมื่อเทียบกับบริบทระดับโลก แม้จะมีการปล่อยคาร์บอนต่อหัวต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่อินเดียยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ G20 ที่อยู่ในเส้นทางของการบรรลุ หรือแม้กระทั่งเกินเป้าหมาย NDC

ในเวทีระหว่างประเทศอย่าง G20 และการประชุมภาคี (COP) ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อินเดียได้ส่งเสริมความเสมอภาคด้านสภาพภูมิอากาศ วิถีชีวิตที่ยั่งยืน และแนวทางการพัฒนาที่ปล่อยคาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการบรรลุเป้าหมาย 50% ของพลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิลก่อนกำหนด อินเดียยิ่งตอกย้ำบทบาทผู้นำในฐานะผู้บุกเบิกด้านพลังงานสะอาด แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อมสามารถเดินไปด้วยกันได้

อนาคตพลังงานที่ทันสมัยและครอบคลุม

ความสำเร็จนี้เป็นโอกาสในการตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น ระยะต่อไปของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของอินเดียต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความเสมอภาค และความยืดหยุ่นในการเข้าถึงพลังงานสะอาด

จุดเน้นสำคัญได้แก่ การเพิ่มการบริโภคไฟฟ้าสะอาดต่อหัวเป็นสองเท่า โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ด้อยโอกาส ผ่านการส่งเสริมระบบพลังงานหมุนเวียนแบบกระจายศูนย์ และอุปกรณ์ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

จำเป็นต้องสร้างโครงข่ายไฟฟ้าที่แข็งแกร่งและผสานระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อจัดการพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนสูง ความผันผวนของความต้องการ และการไหลเวียนของไฟฟ้าแบบสองทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การขยายการใช้งานระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage Systems - BESS) และระบบสูบน้ำเพื่อกักเก็บพลังงาน (pumped hydro storage) จะมีความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของโครงข่ายและการจ่ายไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างหมุนเวียนในวงจรชีวิตของแผงโซลาร์เซลล์ ใบพัดกังหันลม และแบตเตอรี่ จะช่วยสนับสนุนการใช้วัสดุอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

การเร่งลงทุนในไฮโดรเจนสีเขียว ในฐานะเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมที่พร้อมรองรับอนาคต ก็จะมีบทบาทสำคัญในการเร่งการลดคาร์บอนในหลายภาคส่วน

เทคโนโลยีในฐานะพลังเสริม AI และดิจิทัลในพลังงานหมุนเวียน

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอนาคตของอินเดีย โดยจะมีบทบาทสำคัญในการพยากรณ์ความต้องการ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การบริหารโครงข่ายแบบอัตโนมัติ และการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

ด้วยแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบโซลาร์บนหลังคา ยานยนต์ไฟฟ้า และมิเตอร์อัจฉริยะ จะสามารถทำงานร่วมกันภายในตลาดพลังงานอัจฉริยะ ทำให้ผู้บริโภคกลายเป็นผู้ผลิตพลังงาน (prosumer)

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของระบบดิจิทัลก็นำมาซึ่งความท้าทายใหม่ ๆ ด้วย ภาคพลังงานที่พึ่งพาข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมากขึ้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางไซเบอร์ การปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ การละเมิดข้อมูล และการถูกควบคุมโดยอัลกอริธึม เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างระบบพลังงานที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น

เป้าหมายการลดคาร์บอนของอินเดีย

การประชุม COP26 อินเดีย ประกาศเป้าหมายการลดคาร์บอนภายในปี 2030 รวมถึงการลดคาร์บอนจากพลังงานลงเหลือ 50% และบรรลุกำลังการผลิตที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 500 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจากพันธสัญญาปารีส และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

การใช้พลังงานในประเทศอินเดีย

ภาคการผลิตไฟฟ้าในอินเดียได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลายทศวรรษ ประเทศอินเดียประสบความสำเร็จในการทำให้ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพียงพอ ซึ่งการใช้ประโยชน์สูงสุดนั้นเกิดขึ้นได้จากโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติแบบบูรณาการ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อหัวของอินเดียอยู่ที่ 1,208 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจาก 559 กิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2001 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่าเมื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของอินเดียมีความก้าวหน้ามากขึ้น และมาตรฐานการครองชีพของประชาชนดีขึ้นในทศวรรษหน้า เป้าหมายที่จะบรรลุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคือการมีไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง มีคุณภาพ และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

การเปลี่ยนผ่านสู่ศูนย์สุทธิของอินเดีย

ปัจจุบัน อินเดียมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่การลดคาร์บอนและบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ อินเดียมีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอินเดียมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 และพลังงานลมใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยมีกำลังการผลิตรวมมากกว่า 100 กิกะวัตต์ แม้ว่าสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในปัจจุบันจะสูงกว่า 10% แต่ในปี 2021 กว่า 70% ของพลังงานไฟฟ้าของประเทศยังคงผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

ข้อมูลอ้างอิง

  • energytransitions.org
  • pib.gov.in
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

รมว.คลัง ปัดถอนชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติ เคาะ “วิทัย” แน่สัปดาห์หน้า

27 นาทีที่แล้ว

AIS 3BB FIBRE3 บุกตลาดเน็ตบ้านครึ่งปีหลัง ชูดีลเด็ด“พรีเมียร์ลีก+เน็ตแรง”

48 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต.เล็งเปิด Sandbox ให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินบาทใช้จ่ายในไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สหรัฐฯ–จีน ครองแชมป์ถือ Bitcoin มากสุดในโลก ภูฏานโผล่ติดท็อป 5

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

‘นพ.พรหมินทร์’ เผยเตรียมเอกสารไม่ทัน เหตุขอขยายเวลาแจงศาล

สำนักข่าวไทย Online

“หมอมิ้ง” เผย"นายกฯ" ยื่นศาลรธน.แล้วขอขยายเวลา ส่งคำชี้แจงปมคลิปเสียง อีก 15 วัน

The Better

ฐานทัพทับละมุ อยู่ตรงไหน? รู้จักฐานทัพเรือพังงา จุดยุทธศาสตร์ฝั่งอันดามัน

TNN ช่อง16

เดชอิศม์ชี้ ปมที่ดินเขากระโดงต้องทำให้เร็วที่สุด ยันไม่ใช่เกมการเมือง ไม่ได้ทำตามใบสั่งใคร

THE STANDARD

โคเปนเฮเกน อันดับ 1 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก กรุงเทพฯ ที่ 116 เชียงใหม่ 130 จาก 173 อันดับ

TNN ช่อง16

หุ้นไทยปิดเช้าบวก 5.91 จุด

สำนักข่าวไทย Online

มาริษเชื่อข่าวลือสหรัฐฯ ใช้ฐานทัพเรือพังงา มองปมไทย-กัมพูชา โต้ผ่านโซเชียลไม่ใช่ช่องทางการทูต

THE STANDARD

Data Center ที่ออสเตรเลีย ต้องใช้น้ำในระดับเดียวกับที่ประชาชน 330,000 คนบริโภคต่อปี

The MATTER

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...