TKC ปิดดีลทำเทนเดอร์หุ้น AIT สำเร็จ ขึ้นแท่นถือหุ้นอันดับหนึ่งเพิ่มเป็น 34.90% ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร
TKC ประกาศปิดดีลทำเทนเดอร์หุ้น AIT ระหว่างวันที่ 4 มิ.ย. - 16 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ได้สำเร็จ หลังบอร์ดไฟเขียวทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนจากผู้ถือหุ้นเดิมของ AIT ไม่เกิน 10% ในราคา 5.20 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมไม่เกิน 798.94 ลบ. ดันขึ้นแท่นถือหุ้นอันดับหนึ่งเพิ่มเป็น 34.90% จากเดิมถือหุ้นอยู่ที่ 24.90% ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร ผนึกผู้นำด้านระบบเครือข่าย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล-รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน AIT มากขึ้น
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKCหนึ่งในผู้นำด้านวิศวกรรมในสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม ด้วยวิศวกรและระบบงานที่มีคุณภาพในระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและยื่นแบบรายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์ ของบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AITโดยการทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน (Voluntary Partial Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นเดิมของ AIT จำนวนไม่เกิน 153,641,557หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10.00ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ AIT ในราคาหุ้นละ 5.20บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 798,936,096.40บาท
กำหนดระยะเวลารับซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขาย 15.58% จำนวน 239,384,316 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.58 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ AIT
โดยภายหลังจากการเข้าทำรายการ บริษัทจะถือหุ้นใน AIT รวมเป็นสัดสวนไม่เกิน 34.90%ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AIT จำนวน 536,209,028 หุ้น ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ AIT โดยก่อนหน้านี้บริษัทถือหุ้นสามัญคิดเป็นสัดส่วน 24.90%ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือจำนวน 382,567,471 หุ้น
“การเข้าซื้อหุ้น AIT ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ TKC ที่ไม่เพียงตอกย้ำความพร้อมด้านการเงินและกลยุทธ์องค์กร แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่เข้มแข็ง เตรียมความพร้อมในการแข่งขัน และการต่อยอดธุรกิจด้านโทรคมนาคม และไอซีที ให้เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ มุ่งสู่ผู้นำในตลาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายสยาม กล่าวทิ้งท้าย