Global Vision – Local Heart สูตรลับอาณาจักรรีเทลหมื่นล้าน สยามโกลบอลเฮ้าส์
30 ปีก่อน วิศวกรหนุ่มเลือดอีสานชื่อ ‘วิทูร’ มองเห็นโอกาสบางอย่างในภูมิภาคที่หลายคนมองข้าม
เขาเริ่มต้นจากร้านวัสดุก่อสร้างเล็ก ๆ ในจังหวัดบ้านเกิด—ร้อยเอ็ด และขยับขยายอย่างเงียบๆ สู่ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ก่อนจะกลายเป็นเชนค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในไทย
วันนี้ สยามโกลบอลเฮ้าส์ มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีสาขาครอบคลุมทั่วไทยกว่า 90 แห่ง และปักหมุดในลาว เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย รวมแล้วอีกกว่า 38 สาขา
วิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเบื้องหลังและเคล็ดลับการปลุกปั้น ‘Siam Global House’ แบบหมดเปลือก ผ่านเวที “Global Vision with Local Heart: The Story Behind Siam Global House สูตรลับสร้างอาณาจักรรีเทลหมื่นล้าน” ในงาน The Secret Sauce Business Weekend อีสาน 2025
ย้อนไปราวๆ 30 ปีก่อน ธรรมชาติของการซื้อขายวัสดุก่อสร้างและของใช้ภายในบ้าน คือการเดินเข้าร้านค้าปลีก แล้วบอกเถ้าแก่ว่าต้องการอะไร จากนั้นเถ้าแก่จะเดินไปหยิบสินค้านั้นมาให้เลือก 2-3 แบบ พร้อมบอกราคาและคุณสมบัติ
ไม่มีป้ายบอกราคา ไม่มีพนักงานแนะนำสินค้า การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าและความเร่งด่วนของผู้ซื้อล้วนๆ
ส่วนราคาที่เถ้าแก่บอกมา อาจแปรผันตาม ‘โหวงเฮ้ง’ ของลูกค้าแต่ละคน
คุณวิทูรเล่าว่า ตัวเองก็เคยเจอประสบการณ์เช่นนั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่กดดัน ไม่ค่อยเป็นมิตรกับลูกค้า และไม่มีราคามาตรฐาน
นั่นคือ ‘pain point’ ที่เขาเก็บมาเป็นการบ้านส่วนตัว และเริ่มอุดรอยรั่วดังกล่าวตั้งแต่เปิดร้านของตัวเองสาขาแรกที่ร้อยเอ็ด
“ตอนนั้นผมกดดันอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือต้องใช้ one price policy มีราคาเดียว ไม่ต้องต่อรอง สองคือติดป้ายราคายังไงให้เราเก็บเงินได้ถูกต้อง”
สิ่งที่คุณวิทูรทำ คือการยอมลงทุนกับ ‘ระบบ’ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งวันนี้อาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในเวลานั้นถือว่าใหม่มาก และกลายเป็นรากฐานสำคัญในการต่อยอดธุรกิจเป็น ‘โมเดิร์นเทรด’ ในเวลาต่อมา
“มึงเจ๊งแน่นอน” คือฟีดแบ็กจากคนใกล้ตัวในช่วงแรกที่คุณวิทูรเริ่มกิจการ อาจเพราะด้วยวิธีการที่ไม่เคยมีใครทำ ตั้งแต่การกล้าลงทุนกับระบบหลังบ้าน ซึ่งใช้งบประมาณเทียบเท่ากับรถบีเอ็มหนึ่งคัน รวมถึงการกล้า ‘รับประกันและยินดีให้คืนสินค้า’ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดสาขาแรก ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “อยากให้ลูกค้ามั่นใจ”
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Siam Global House เกิดขึ้นช่วงต้นทศวรรษ 2540 ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ทว่าคุณวิทูรกลับสวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ ปักหมุดไว้ที่จังหวัดขอนแก่น
แน่นอนว่า ปราการด่านสำคัญคือการปล่อยกู้จากธนาคาร ซึ่งสถานการณ์นับว่าท้าทายมาก แต่ด้วยการสั่งสมเครดิตมาต่อเนื่องหลายปีโดยไร้ประวัติด่างพร้อย ทำให้ได้รับไฟเขียวในที่สุด และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการ ‘สเกล’ ไปสู่ระดับประเทศ ด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Siam Global House ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง คือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในองค์กร โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารจัดการภายใน
“เรื่องการสื่อสาร ถ้าเป็นคนสื่อสารกัน บางทีมันมีสีหน้า แต่ระบบดิจิทัลมันไม่มีสีหน้า ไม่มีอารมณ์ มีแค่ข้อมูล เปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้ ตรวจสอบได้”
ตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยี มีตั้งแต่การยกเลิกการใช้เครื่องถ่ายเอกสารตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน โดยเปลี่ยนมาใช้เอกสารดิจิทัลทั้งหมด, มีแอพลิเคชั่นของบริษัทที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลพนักงาน ติดต่อประสานงาน สื่อสารภายใน มีฟีเจอร์ Global AI ที่เชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Gemini เวอร์ชั่นล่าสุดให้พนักงานทุกคน (ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 12,000 คน) ได้ใช้ตามอัธยาศัย
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง หรือกำลังอยู่ในช่วงของการขยายธุรกิจให้เติบโต คุณวิทูรฝากคำถามชวนคิดไว้สั้นๆ ว่า “มีระบบหรือยัง แล้วระบบนั้นช่วยให้คุณ ‘สเกล’ ได้หรือไม่”
“ในฐานะซีอีโอ เวลาจะเปลี่ยนระบบ หรือใช้ระบบใหม่ ผมเริ่มทำก่อน และพาทุกคนทำ แล้วผมบอกเขาด้วยว่าถ้าทำเสร็จเรียบร้อย คุณจะสบาย”