นิสัย 1 ข้อที่ทำให้ "ไขมันพอกตับ" อาจไม่ใช่จากอาหารที่กิน แต่เป็นเพราะ "ความเร็ว"
ผลวิจัยชี้ นิสัย 1 ข้อที่ทำให้ "ไขมันพอกตับ" อาจไม่ได้มาจากอาหารที่กิน แต่เป็นเพราะ "ความเร็ว"
งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Nutrition & Diabetes โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลจงซาน มหาวิทยาลัยฟู่ตัน ประเทศจีน พบว่า การกินอาหารเร็ว (ใช้เวลาในการกินแต่ละมื้อน้อยกว่า 5 นาที) อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ
ในการศึกษานี้ นักวิจัยเก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 1,965 คน อายุเฉลี่ย 53.6 ปี จากคลินิกเฉพาะทางโรคเมตาบอลิก 10 แห่ง ใน 6 มณฑลของจีน โดยในกลุ่มผู้เข้าร่วมนี้ มีถึง 48.8% ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขมันพอกตับ
จากความถี่ของการกินเร็ว ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม:
กลุ่มที่ 1: กินเร็วไม่เกิน 1 ครั้ง/เดือน (1,362 คน)
กลุ่มที่ 2: กินเร็วไม่เกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์ (313 คน)
กลุ่มที่ 3: กินเร็วตั้งแต่ 2 ครั้ง/สัปดาห์ขึ้นไป (290 คน)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่กินเร็วตั้งแต่ 2 ครั้ง/สัปดาห์ขึ้นไป มีอัตราการเป็นโรคไขมันพอกตับสูงถึง 59.3%
เมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินเร็วไม่เกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์ (50.5%) และกลุ่มที่กินเร็วไม่เกิน 1 ครั้ง/เดือน (46.2%)
นักวิจัยยังได้วิเคราะห์เพิ่มเติมจากอีก 5 งานวิจัย และพบว่าการมีนิสัยกินเร็วอย่างต่อเนื่องในระยะยาว สามารถเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับได้ถึง 22%
ทำไมการกินเร็วถึงเพิ่มความเสี่ยงไขมันพอกตับ?
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การกินเร็วมีผลต่อร่างกายใน 2 ด้านสำคัญ:
รับแคลอรีมากเกินจำเป็น: สมองต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการรับรู้ว่า “อิ่ม” หากกินเร็ว จะกินมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉลี่ยอาจกินเพิ่มขึ้น 100–150 แคลอรีต่อมื้อ ส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันส่วนเกิน น้ำหนักเพิ่ม และเกิดภาวะไขมันพอกตับ
ระบบจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล: การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดจากการกินเร็ว ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก จุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล ซึ่งอาจกระทบต่อการเผาผลาญไขมัน ก่อให้เกิดการอักเสบ และเร่งการสะสมไขมันในตับ
นักวิจัยแนะนำว่า การยืดเวลาการกินอาหารให้นานขึ้น 20–30 นาที เป็นหนึ่งในวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงไขมันพอกตับได้
เคล็ดลับชะลอความเร็วในการกิน
เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็ก
ดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหาร
งดใช้โทรศัพท์ ทีวี หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างรับประทานอาหาร
นิสัย "กินเร็ว" อาจเป็นเรื่องเล็กที่กลายเป็นภัยเงียบ ทำร้ายสุขภาพตับโดยไม่รู้ตัว หากคุณมีพฤติกรรมนี้ ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันโรคไขมันพอกตับในระยะยาว