ราชกิจจาฯ ประกาศ ขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จ. ยังคงมีบังคับใช้
ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ยังคงมีผลใช้บังคับ ใน ๓จังหวัดชายแดนใต้ ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส โดยมีรายละเอียดตามประกาศดังต่อไปนี้
ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปีนัง ลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ แล้ว นั้น
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข หรือระงับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และ จังหวัดยะลา ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
ประกาศ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติการตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ประกาศ เรื่อง การให้หน่วยงานพิเศษที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ปฏิบัติหน้าที่ในเขตท้องที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ และประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
ภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน
นายกรัฐมนตรี