ตำรวจไทยผนึกกำลัง Interpol กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ตั้งเป้าลดอาชญากรรม 50% ใน 3 เดือน
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) และหัวหน้าหน่วยงานสำคัญในการต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่องค์การตำรวจสากล (Interpol) ณ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือและยื่นหนังสือขอความร่วมมือในการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา ซึ่งสร้างความเสียหายมหาศาลต่อทั้งเศรษฐกิจและสังคม
พล.ต.อ.ธัชชัย ได้บรรยายและแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์อาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสมาชิก Interpol รวมถึงหารือกับ Cyril GOUT ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายกิจการตำรวจ และ Abdulaziz OBAIDALLA ผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการสนับสนุนส่วนภูมิภาค
โดยเน้นย้ำถึงความรุนแรงของปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่มีฐานที่มั่นในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อไทยและนานาชาติอย่างมาก รายได้จากอาชญากรรมเหล่านี้มีมูลค่าสูงกว่า 60% ของรายได้ประเทศกัมพูชา อ้างอิงจากข้อมูลของ UNODC
ผลจากการหารือเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดย Interpol ได้ยืนยันที่จะร่วมมือกับทางการไทยอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งการสนับสนุนเครื่องมือ ข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ และการวางแผนปฏิบัติการ เพื่อเปิดฉากกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ นอกจากนี้ Interpol จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาประจำการที่ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ของประเทศไทย (War Room) ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการนำองค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย
พล.ต.อ.ธัชชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า Interpol ซึ่งมีสมาชิก 196 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยและกัมพูชา จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานงานความร่วมมือระหว่างตำรวจนานาชาติ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในประเทศสมาชิก แลกเปลี่ยนข้อมูลคนร้ายและข้อมูลอาชญากรรม การขับเคลื่อนการปราบปรามผ่านกลไกของ Interpol จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ โดยมีประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน และสามารถปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ได้อย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.ธัชชัย แสดงความมั่นใจว่า การจัดตั้ง ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ของประเทศไทย (War Room) ที่มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะเป็นกลไกทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งมีความสัมพันธ์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยเฉพาะในกัมพูชา
สิ่งนี้จะช่วยให้การติดตามจับกุมคนร้ายและการอายัดเงินที่ถูกหลอกลวงสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและทันต่อรูปแบบการกระทำความผิดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
รัฐบาลไทยได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ปัญหาอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในประเทศไทยต้องลดลงมากกว่า 50% และที่สำคัญคือ ต้องไม่ให้กลุ่มคนร้ายใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกต่อไปอย่างเด็ดขาด