โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘แม้ว’ ปัดมี ‘ดีลลับ’ อ้างพระบรมราชโองการจะอยู่เฉยไม่ถูกต้อง โอด ‘อิ๊งค์’ โดนพักงานเรื่องเฮงซวย

ไทยโพสต์

อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.54 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'พ่อนายกฯ' ลั่นไม่มีเปลี่ยนตัวนายกฯ ต้องทำงานต่อเนื่อง โอด 'อิ๊งค์' โดนพักงานด้วยเรื่องเฮงซวย พร้อมขออาสาเป็นเสมียนประเทศ รับปัญหาการเมืองหนักกว่าเศรษฐกิจ เพราะทำนายไม่ได้ ยันกลับบ้านไม่มี 'ดีลลับ' ส่วนลูกสาวถ้าอาสาทำงานแล้ว เขาไม่ให้ทำก็กลับไปเลี้ยงลูก อ้างพระบรมราชโองการลดโทษให้ ต้องรับใส่เกล้าฯ แล้วจะอยู่เฉยโดยไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองถือว่าไม่ถูกต้อง รับ กลัวความเสี่ยงเสถียรภาพทางการเมืองที่สุด อ้างเศรษฐกิจแย่มานานจะแก้ข้ามคืนยาก ต้องอาศัยความร่วมมือ วิธีคิดไม่ตันแน่ โปรยยาหอม วันนี้ต้องเอาความหวังกลับให้คนไทย

18 ก.ค.2568 - ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงค่ำ วันที่ 17 ก.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” ว่า วันนี้รัฐบาลมีความชอบธรรมในการออกกฎหมายในการแก้ปัญหาสำคัญของประเทศอย่างรวดเร็วทันใจ ไม่เช่นนั้นมันไม่ไปไหน คิดว่าวันนี้มีใครที่ไปคิดว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนนายกฯ มันไม่มีหรอก เพราะเราต้องทำงานต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ก็แถมตนที่เป็นเสมียนของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายทักษิณพูดถึงช่วงนี้ น.ส.แพทองธาร ถึงกลับหัวเราะออกมา

ก่อนที่นายทักษิณ จะกล่าวต่อว่า ตนขอเป็นเสมียนให้ประเทศ รวบรวมทุกอย่างส่งให้นายกฯ และรัฐมนตรีไปดู ตนเป็นคนชอบรวบรวมปัญหาและแนวทาง เป็นเรื่องที่อยากเห็นในบ้านเรา ตนมีเพื่อนเป็นคนสิงคโปร์ วันที่กลับประเทศไทยเขาบอกว่าในฐานะเพื่อนเขาดีใจมาก แต่ในฐานะคนสิงคโปร์เขาหนักใจเพราะเขาต้องปรับการแข่งขันกับไทย แต่พอตอนนี้เขาเห็นเราตีกัน นายกฯ ถูกพักงานด้วยเรื่องเฮงซวย เขาเลยบอกว่าวันนี้เขาไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะประเทศไทยแข่งกับเขาไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เราไม่ควรทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระเราควรหันหน้าเข้าหากันและทำให้บ้านเมืองเราเจริญรุ่งเรืองดีกว่า

"วันนี้สำคัญเราต้องรักกันแม้จะอยู่คนละฝั่ง สมัยก่อนตอนที่ตนเข้าการเมืองใหม่ๆ ด่ากันในสภาเสร็จก็มานั่งกินกาแฟกันข้างหลัง นั่งห้องสหประชาชาติดื่มไวน์กัน ไม่มีปัญหา แต่พอตนมาพรรคไทยรักไทยที่โตมากเกินไป ทีนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง จะเอาเป็นเอาตายกันให้ได้ ซึ่งมันเป็นเกมใครชนะก็ไปทำหน้าที่ ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้านคอยติงเอา ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่กลับไม่ยอมรับสภาพตรงนี้ ตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร"

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญแล้ว เราจะต้องเร่งให้เมืองท่องเที่ยวเป็นสมาร์ทซิตี้ นั่นคือการติดกล้อง เอไอให้หมด วันก่อนมีคนเอาระเบิดควันไปทิ้งบ้านข้างๆที่ติดกับบ้านตน อาจจะทำให้ตนตกใจมั้ง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 3-4 นาฬิกา ซึ่งตำรวจก็ติดตามและไปเจอรูปที่เซเว่นอีเลฟเว่นที่วงเวียนใหญ่ หากเรามีสมาร์ทซิตี้ที่ติดกล้องเอไอทั่วถึงและมีซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องที่ดีความปลอดภัยก็จะสูงขึ้นมาก

จากนั้นนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ฟังหูไว้หู” ของสำนักข่าวไทย โดยมีนายวีระ ธีรภัทร และ น.ส.ชุติมา พึ่งความสุข เป็นผู้ดำเนินรายการสด ในงานปลดล็อคอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก

นายทักษิณ ตอบคำถามถึงประเด็น ปัญหาการเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจหนักหนากว่ากัน ว่าปัญหาเศรษฐกิจคาดการณ์ได้ อาจต้องใช้เวลา แต่ปัญหาการเมือง ทำนายยาก จิตใจมนุษย์เต็มไปด้วยความโลภกิเลส เป็นสิ่งที่เดาได้ยาก ยิ่งกว่าเศรษฐกิจที่เป็นไปตามภาวะของโลก ที่คาดเดาได้

เมื่อถามถึงดีลลับ มีจริงหรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มีหรอก มีการสร้างมาเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น ไม่มีดีลอะไรเลย แต่ดีลที่แน่นอนคือดีลกับทรัมป์ เมื่อถามย้ำว่าในตอนที่ตัดสินใจ ในปี 2566 ทุกคนเชื่อว่าต้องมีอย่างน้อยอะไรสักอย่างให้เกิดความมั่นใจ นายทักษิณ ระบุว่า ทางการเมืองไม่มี ไม่มีดีลการเมืองกับใครเลย กลับมาตามระบบและทูลขอพระราชทานพระเมตตา ซึ่งก็ได้รับพระราชทาน แค่นั้นเอง

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลนี้อยากเข้ามาทำธุรการกับธุรกิจสามารถอยู่ได้สบาย ตลอด 4 ปี แต่เราอยากทำงานแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง

เมื่อถามว่าสถานการณ์ของท่านไม่ได้ดีไปกว่าสถานการณ์ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ซึ่งในวันที่ 22 ส.ค. นี้ ศาลอาญา นัดพิจารณาคดีมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ตนขึ้นศาลเอง ตนรู้ ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ขณะที่พยาน อะไรก็ไม่รู้ และตนได้ถามพนักงานสอบสวน ถ้าวันนั้นไม่ถูกกดดัน พยานหลักฐานแค่นี้ จะสั่งฟ้องตนหรือไม่ พนักงานสอบสวนตอบว่า อย่าว่าเรื่องสั่งฟ้องเลย รับคดี ก็ไม่รับ เราเคารพศาล สิ่งที่พูดเป็นการเล่าให้ฟัง ว่าเรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน

“ผมผ่านการเมืองมา 51 ปี ลูกสาวตน อาสา เขาตามผมมาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หาเสียงด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้นความอยากใกล้ชิด ช่วยเหลือชาวบ้าน มันอยู่ใน DNA ซึ่งเมื่ออาสาแล้ว เขาให้ทำก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าเขาไม่ให้ทำก็กลับไปเลี้ยงลูกต่อไปเท่านั้น” นายทักษิณ กล่าว

เมื่อถามว่าคนนอกมองทำไมท่านต้องมามายุ่งกับการเมือง นายทักษิณ ระบุว่า "ประเทศไทยปัญหาเยอะ และซับซ้อน ถ้าอ่านพระบรมราชโองการ ลดโทษให้ตน ผมต้องรับใส่เกล้าฯ แล้วจะอยู่เฉยโดยไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง ถือว่าไม่ถูกต้อง"

จากนั้นพิธีกรถามนายทักษิณ ว่า สิ่งที่ท่านได้กล่าวมาทั้งหมดถ้าทำสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยพ้นจากกำดักหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องเอาเงินใหม่เข้าประเทศเยอะๆ เมื่อเงินสะพัดเงินใช้สอย เศรษฐกิจก็จะดี สมัยที่ตนหาเสียงไทยรักไทยมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ หลังจากที่เราแก้ปัญหาหนี้ได้ สร้างโอกาสใหม่ หลังจากนั้นขายดี แต่ในครั้งนี้เป็นโชคดีและโชคร้าย คือเศรษฐกิจแย่ โครงสร้างทางเศรษฐกิจเสียหายเยอะ แต่ดีที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆจึงมีทางลัดได้หลายอย่าง แต่เราต้องนำมาใช้ให้ได้ เม็ดเงินเราไม่มีโดยตรง เพราะหนี้เยอะ เราสามารถใช้เม็ดเงิน 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งคือเม็ดเงิน ที่เกิดจากการสร้างเหรียญขึ้นมา เช่นเราเอาหนี้มาทำเป็นสภาพคล่อง เพราะปกติหนี้ไม่ใช่เป็นสภาพคล่อง แต่เราสามารถเอาหนี้มาทำเป็นสภาพคล่องด้วยจีโคเคน ที่กำลังจะออก

พิธีกรถามว่า สมมุติว่าหากทำได้จากที่นายทักษิณพูดจากนี้ไปอีกกี่ปีที่ประเทศไทยจะลืมตาอ้าปาก นายทักษิณ กล่าวว่า คิดว่าทุกอย่างมันแย่มานาน จะให้เสร็จภายในข้ามคืนมันยาก แต่เราก็ต้องเริ่ม ระบบเราช้า ตนได้บอกกระทรวงการคลังว่าเรามาทำจีโทเคนกันหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะเข้าใจ แล้วเมื่อเข้าใจก็กลัว แต่ไม่ทันใจ ซึ่งสมมุติว่าจะเอาหนี้มาขายทั่วไป และในวันนี้พันธบัตรก็ขายสถาบันต่างชาติ เมื่อขายเราก็ให้สั้นหน่อย สมมุติว่าอยากจะไปซื้อรถยนต์ และรถยนต์รับพันธบัตร ซึ่งพันธบัตรต้องเสียภาษี รัฐจะได้อยู่ที่ 7% ถ้าเอาส่วนนี้มาจ่ายดอกเบี้ย 3% จะทำให้เกิดสภาพคล่อง เศรษฐกิจหมุนเวียน

พิธีกรถามว่าจะทำปาฏิหาริย์ให้กลับมาเป็นครั้งที่ 2 จากปี 32 หรือไม่ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าเราจะทำ แล้ววันนี้เป็นลักษณะของรัฐบาลต้องอาศัยความร่วมมือ ถ้าความร่วมมือมีมันไม่ยาก วิธีคิดเราไม่มีตันเด็ดขาด ฉะนั้น ที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือเอาเงินในทุกสภาพเข้ามาใช้ในประเทศไทยให้มากที่สุด

เมื่อถามว่าโมเดลเหมือนเป็นสูตรเดิม มีส่วนผสมอะไรใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่า สูตรเดิมแต่ปรุงใหม่ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป เราจะดูวัตถุโบราณอย่างเดียวไม่พอแล้ว ก็ต้องสร้างสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอะไรขึ้นมาบ้าง และที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทยเรามีบริการที่ดีที่สุดในโลก เพียงแต่คนเหี่ยวเพราะรายได้ไม่มี ฉะนั้น ต้องให้คนไทยคึกขึ้นมาใหม่ ซึ่งวันนี้คนไทยไม่มีความหวังเรา วันนี้เราต้องเอาความหวังกลับมาให้คนไทย ตนพยายามจะพูดเพื่อให้คนไทยมีความหวัง และไม่เคยมองอะไรยาก แต่บางอย่างต้องใช้เวลาและพยายามขอความร่วมมือ สิ่งที่ตนพูดทำได้ทุกอย่างไม่มีอะไรทำไม่ได้

พิธีกรถามว่าอะไรเป็นความเสี่ยงหลักที่ท่านกลัวที่สุดตอนนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้เป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และบางคนเป็นประเภทแบบนกรู้ รู้ไม่รู้ก็ทำเป็นนกรู้ก่อน ซึ่งจะเกิดการชะงักเล็กน้อย ถ้าการเมืองเกิดการชะงักการบริหารประเทศก็จะชะงักตาม ฉะนั้น สิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือเสถียรภาพทางการเมือง และจริงๆแล้วจากผลสำรวจคนสนใจคำว่าความหวังถึง 62% เพราะเขากังวลเรื่องของความมั่นคงทางการเงินของเขาเองในทุกครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองเหลือ 3% ตอนนี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลอ่อนที่สุดคือการสื่อสารกับประชาชน ที่ตนพยายามช่วยพูดคืออยากช่วยสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่างานทำอยู่และกำลังทำหลายเรื่อง ต้องอธิบายให้เข้าใจแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้จบ ได้ทำไปบางกรุ๊ปแล้ว แต่วันนี้ถือเงินไว้เพราะเจอภาษีทรัมป์ ถ้าเจอปัญหาขึ้นมาต้องดูว่าทำอย่างไรไม่ให้โรงงานเจ๊ง

เมื่อถามถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในกลุ่มอายุ 16-20 ปีนั้น ทำไมถึงถอดใจไม่ทำต่อ นายทักษิณ กล่าวว่า เงินไม่พอ เราต้องเก็บเงินไว้เก็บเงินเพื่อแก้ปัญหา ถ้าเราจะเพิ่มเพดานหนี้ก็ได้แต่ไม่ควรทำ ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ในเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาใหม่ 10 กว่าคน ก็ควรให้เขารีวิวหน่อย เพราะเนื่องจากมีคนค้านอยู่จำนวนหนึ่ง ตนสนใจว่ามีหลายกลุ่มของประชาชนที่ไม่เข้าใจยังมีอยู่ และครม.ใหม่ที่เข้ามาเพื่อความเป็นธรรมควรที่รู้ว่าเป็นอย่างไร

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ได้ฤกษ์ รฟท.ไฟเขียว ’SRTA‘ เช่าที่ดินย่านรัชดาฯปั๊มรายได้หมื่นล้าน

11 นาทีที่แล้ว

ประชด! ฟัง ‘ทักษิณ’ แล้วอยากให้ออกพรบ.นิรโทษกรรม ให้กลับมาเป็นนายกฯได้อีก

19 นาทีที่แล้ว

ศาลฎีกาฯ เริ่มไต่สวน ‘2 แพทย์ใหญ่’ กับพวก คดีชั้น 14 นัดห้า

43 นาทีที่แล้ว

ชวนโหวตสุดยอดเมนู ‘อาหารถิ่น’ 77 จังหวัด

44 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม