ผลไม้ที่อังกฤษอวยเป็น "เพชรสีแดง" ทองคำสำหรับตับ-ไต ขจัดความชรา ปลุกพลังชายชาตรี!
รู้จัก "โกจิเบอร์รี่" เพชรสีแดงจากธรรมชาติ! ผลไม้ที่ผู้ดีอังกฤษยังยกย่อง ดีต่อตับ-ไต ชะลอวัย บำรุงลึกถึงพลังเพศชาย
หากพูดถึงผลไม้มหัศจรรย์เพื่อสุขภาพที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “โกจิเบอร์รี่” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อจีนว่า “เก๋ากี้” ผลไม้เม็ดเล็กสีแดงสด ที่ชาวจีนโบราณเรียกว่า “แก่นแท้แห่งสวรรค์” และ “อมตะแห่งผืนดิน”
ในสื่ออังกฤษอย่าง BBC ยังยกย่องว่า โกจิเบอร์รี่คือ “เพชรสีแดง” และ “สุดยอดอาหารชะลอวัย” แห่งโลกตะวันออก เพราะนอกจากรสชาติที่กินง่ายแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย และใช้กันมานับร้อยปีทั้งในอาหารและการแพทย์แผนจีน
โกจิเบอร์รี่ อาหารสีทองเพื่อ "ตับ"
จากรายงานของ Medical News Today ระบุว่า โกจิเบอร์รี่มีประวัติการใช้ในตำรับยาจีนเพื่อบำรุงและรักษาโรคตับ โดยเฉพาะโรคไขมันพอกตับจากแอลกอฮอล์ รวมถึงอาจช่วยลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งตับได้ในสัตว์ทดลอง
สารสำคัญในโกจิเบอร์รี่ ได้แก่ เบตาแคโรทีน ซีแซนทีน และโพลีแซ็กคาไรด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องตับ ลดการอักเสบ และลดความเครียดจากออกซิเดชันในร่างกาย
งานวิจัยจาก Very Well Health พบว่า ผู้ใหญ่ที่รับประทานโกจิเบอร์รี่ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ มีแนวโน้มลดระดับเอนไซม์ตับลงได้
บำรุง “ไต” เพิ่มพลังชีวิตและฟื้นฟูสมรรถภาพชาย
จากรายงานของ “หนังสือพิมพ์สุขภาพและชีวิต” เก๋ากี้มีฤทธิ์เป็นกลาง มีผลต่อเส้นลมปราณของตับ ไต และปอด มีสรรพคุณบำรุงเลือด บำรุงสายตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปอด และเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
แพทย์แผนตะวันออกใช้โกจิเบอร์รี่เพื่อบรรเทาอาการจากภาวะไตพร่อง เช่น ปวดหลังเข่า เวียนศีรษะ ภาวะอสุจิน้อย หรือภาวะมีบุตรยาก
โดยเฉพาะในผู้ชาย การรับประทานโกจิเบอร์รี่อย่างสม่ำเสมอในรูปแบบเครื่องดื่ม สมุนไพร หรือแม้แต่ไวน์เก๋ากี้ อาจช่วยเพิ่มพลังงานทางเพศ เสริมการไหลเวียนเลือด และฟื้นฟูระบบสืบพันธุ์
ยาจีนสูตรโบราณนิยมผสมโกจิเบอร์รี่กับสมุนไพรอย่างโกฐจุฬาลัมพา เพื่อบำรุงเลือด กระดูก และเพิ่มคุณภาพอสุจิ
คำแนะนำเพิ่มเติม
แม้โกจิเบอร์รี่จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่การนำมาใช้เพื่อสุขภาพหรือรักษาโรคควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปรับปริมาณและวิธีใช้ให้เหมาะกับร่างกายแต่ละคน
เพราะสุดท้ายแล้ว สุขภาพที่ดีไม่ได้มาจากการพึ่งพาสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แต่ควรควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่สมดุล พักผ่อนเพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- เตือน! ปลา 2 ชนิด ที่ไม่ควรกินบ่อย เสี่ยงสะสม "ยาปฏิชีวนะ" และ "โลหะหนัก" ในร่างกาย
- ผลไม้ฉายา "น้ำตาลธรรมชาติ" หวานแต่ไม่อันตราย แถมประโยชน์เลิศ กินได้ทั้งสดและแห้ง!