บีโอไอ ยันไทยสู้ได้ ยอดลงทุนปี’67 โตพุ่ง 35% สูงสุดในรอบทศวรรษ
บีโอไอ ยันไทยสู้ได้ ยอดลงทุนปี’67 โตพุ่ง 35% สูงสุดในรอบทศวรรษ
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค สะท้อนจากอัตราการเติบโตการลงทุนในประเทศไทยเมื่อปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นถึง 35% เทียบจากปี 2566 ซึ่งถือเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหลักๆ คือ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และประเทศไทยมีความโดดเด่นสำหรับนักลงทุนเพราะมีท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติ และมีโครงสร้างพื้นฐานทั้งในแง่การคมนาคมและศูนย์รวมข้อมูลชั้นนำที่ก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเป็นอย่างมาก
ในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี 17 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และกำลังเจรจาการค้ากับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และแคนาดา ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นในด้านซัพพลายเชน โดยเฉพาะในธุรกิจยานยนต์ และเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียว พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีก้าวหน้า นอกจากนี้รัฐบาลยังออกมาตรการต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ อาทิ
การตั้งศูนย์บริการครบวงจร (one-stop service) ที่อาคารวัน แบงคอก และการออกวีซ่า 10 ปีพ่วงใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานที่มีทักษะ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่และดึงดูดทั้งภาคธุรกิจและแรงงาน แต่สิ่งที่ประเทศไทยยังต้องพัฒนาก็คือความสามารถของแรงงานไทย ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการสร้างความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำหรับผลกระทบของกำแพงภาษีสหรัฐที่ตั้งให้ไทยในอัตรา 19% มองว่าสงครามภาษีและสงครามเทคโนโลยีเป็นเกมระยะยาวที่สามารถปรับเปลี่ยนและเจรจาได้ตลอดเวลา ประเทศไทยในขณะนี้มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีและเป็นประเทศที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุน ทำให้ประเทศไทยยังถือว่าได้เปรียบอยู่ อีกทั้งทีมเจรจาของรัฐบาลก็กำลังพยายามเจรจากับสหรัฐอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ประเทศไทยได้ผลประโยชน์สูงสุด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บีโอไอ ยันไทยสู้ได้ ยอดลงทุนปี’67 โตพุ่ง 35% สูงสุดในรอบทศวรรษ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th