แบงก์สินเชื่อหดตัว หุ้นไหนรอด-เช็กเลย!
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.53 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BANKING SECTOR ว่า สินเชื่อรวมยังมีแนวโน้มปรับลง กดดันรายได้ดอกเบี้ยใน 2H25
สินเชื่อรวมของกลุ่มกลับมาชะลอตัวในเดือน ก.ค. จากรายงาน ธ.พ. 1.1. เดือน ก.ค. 2025 เราสรุปภาพของสินเชื่อของธนาคารภายใต้ Coverage ของเรา พบว่าสินเชื่อรวมของกลุ่มลดลง 0.6% MoM (ลดลง 1.1% YoY และ 1.1% YTD) โดยเป็นการปรับลดลงของทั้งธนาคารใหญ่ (-0.6% MoM, -0.1% YoY) และธนาคารขนาดกลาง/เล็ก (-0.5% MoM, -5.7% YoY)
จากการสอบถาม พบว่าประเด็นหลักคือการชะลอตัวของสินเชื่อบริษัทใหญ่ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนจากทั้งค่าภาษีของสหรัฐฯ และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา ทำให้ลูกค้าบางส่วนในกลุ่มสินเชื่อบริษัทใหญ่มีการเลื่อนโครงการลงทุนออกไป
ภาพรวมธนาคารรายตัว
BBL สินเชื่อชะลอตัวมากที่สุด (-1.8% MoM, -0.5% YoY) หลังสินเชื่อเกือบทุก Segment ปรับตัวลง สะท้อนนโยบายคุมเข้มสินเชื่อของธนาคาร และลูกค้ากลุ่มบริษัทใหญ่ชะลอการลงทุน
ธนาคารใหญ่ที่สินเชื่อถือว่าลดลงน้อยและยังทรงตัว ได้แก่ SCB (+0.01% MoM, -1.9% YoY) โดยยังคงเติบโตจากสินเชื่อกลุ่มบริษัทใหญ่ และ KTB (-0.3% MoM, +2.4% YoY) ได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อโครงการรัฐและสินเชื่อบ้านเร่งตัวขึ้น
ธนาคารขนาดกลาง/เล็ก หลังสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือหนึ่งและมือสองยังชะลอตัว
แนวโน้มกำไร 3Q25
คาดจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ กดดันจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ โดยเงินฝากของกลุ่มกลับมาขยายตัวราว 0.4% MoM แต่ธนาคารไม่ได้ขยายสินเชื่อ ใช้วิธีพักเงินในตลาดเงินแทน ทำให้ผลตอบแทนไม่สูง ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีกครั้งในเดือน ส.ค. ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสินเชื่อลดลง QoQ
อย่างไรก็ตาม ผลลบบางส่วนอาจถูกชดเชยด้วยกำไรจากเงินลงทุนที่ปรับขึ้นตามภาวะตลาด และการคุมค่าใช้จ่ายตั้งสำรอง โดยธนาคารใหญ่ตั้งสำรองรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไว้ล่วงหน้าแล้วใน 1H25
ทั้งนี้ คาดแนวโน้มกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารใน 3Q25 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 207,842 ลบ. ลดลง 3.1% YoY
คำแนะนำการลงทุน
คงคำแนะนำ “เท่ากับตลาด” โดยเลือก TTB เป็น Top Pick ของกลุ่ม เนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ดี และได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาลงน้อยกว่าธนาคารใหญ่ เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ราว 30% ของสินเชื่อรวม คาดจะจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.06 บาท (Div. Yield 3%) สูงที่สุดในกลุ่ม และทั้งปีคาดเงินปันผลหุ้นละ 0.13 บาท (Div. Yield 6.9%) ไม่รวมโครงการซื้อหุ้นคืนที่คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องตามแผน 3 ปี