คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์ฯวุฒิสภาหารือแนวทางการส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้สถานที่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. พลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาคุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ และนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ คนที่สาม ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญ และประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา นำคณะอนุกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมประชุมปรึกษาหารือในประเด็นแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 5 ชั้น 5 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

ในการหารือร่วมกันครั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพสูงในการเป็นพื้นที่เรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้เสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับจังหวัดและท้องถิ่น เช่น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้คุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประวัติศาสตร์ท้องถิ่น รวมถึงพัฒนาแนวทางเพื่อสร้างความสนใจและการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยเฉพาะการศึกษาออนไลน์ ปัจจุบันมีการนำ AI เข้ามาใช้ ก็ควรให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาในด้านการเรียน คณะครู ก็จะได้พัฒนาทักษะการสอนให้ทันสมัยมากขึ้น

หลังจากนั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้เดินทางไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อศึกษาและเรียนรู้พระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีคุณูปการต่อประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเยี่ยมชมบริเวณโดยรอบ ก่อนเดินทางต่อไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ในจังหวัดเชียงใหม่

นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ข้อมูลพื้นฐานของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านทิศเหนือ ติดรัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา , ทิศใต้ ติดอำเภอสามเงา แม่ระมาด และท่าสองยาง จังหวัดตาก , ทิศตะวันออก ติดอำเภอแม่ฟ้าหลวง เมืองเชียงราย แม่สรวย เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย, อำเภอเมืองปาน เมืองลำปาง จังหวัดลำปาง , อำเภอบ้านธิ เมืองลำพูน ป่าซาง เวียงหนองล่อง บ้านโฮ่ง และลี้ จังหวัดลำพุน , ทิศตะวันตก ติดอำเภอปาย เมืองแม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขนาดพื้นที่ 22,311 ตารางกิโลเมตร (13.94 ล้านไร่) มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุด ประชากร 1.79 ล้านคน 879,477 ครัวเรือน แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ 204 ตำบล 2,066 หมู่บ้าน และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 211 แห่ง

ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานขับเคลื่อนและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีคณะทำงานการขับเคลื่อนและขยายผล แบ่ง เป็น 4 มิติ ได้แก่ มิติด้านสิ่งแวดล้อม (สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่) , มิติด้านการเกษตร (สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่) , มิติด้านสังคม (สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่) และมิติอื่นๆ (ปลัดจังหวัดเชียงใหม่) พร้อมทั้งมีการดำเนินงานในระดับอำเภอ มีนายอำเภอ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ปลัดอำเภอ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

การเสด็จพระราชดำเนิน ณ จังหวัดเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทรงไต่ถามทุกข์สุข และการอาชีพของราษฎร พร้อมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการประตูระบายน้ำบ้านแม่ปูคา พร้อมระบบส่งน้ำตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตดำเนินโครงการขยายผลองค์ความรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อต่อยอดโครงการประตูระบายน้ำบ้านแม่ปูคาพร้อมระบบส่งน้ำ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่บ้านแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 668 โครงการ แบ่งเป็น ด้านแหล่งน้ำ จำนวน 484 โครงการ ด้านการเกษตร จำนวน 9 โครงการ ด้านสิ่งแวดล้อม จำนวน 26 โครงการ ด้านการส่งเสริมอาชีพ จำนวน 33 โครงการ ด้านสาธารณสุข จำนวน 1 โครงการ ด้านคมนาคม/สื่อสาร จำนวน 13 โครงการ ด้านสวัสดิการสังคม/การศึกษา จำนวน 63 โครงการ และด้านบูรณาการ/อื่นๆ จำนวน 39 โครงการ นอกจากนี้ยังมีศูนย์ศึกษาพัฒนาการห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2525 เป็นศูนย์การศึกษาทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคเหนือ ศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง เพื่อประโยชน์ 4 อย่าง คือ มีไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยมีศูนย์สาขาอีก 5 แห่ง ดังนี้ โครงการศูนย์บริการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอมก๋อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โครงการเกษตรวิชญา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ "เกษตรวิชญา" เป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตร ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้า มหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2544 ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังพื้นที่บ้านกองแหะ หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทอดพระเนตรสภาพพื้นที่เป็นเขาหัวโล้น ราษฎรทำการเกษตรแบบไร่เลื่อนลอย ทรัพยากรป่าไม้เสื่อมโทรม จึงทรงมีพระราชดำริให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางแผนการใช้ที่ดิน พัฒนาที่ดินและแหล่งน้ำ ให้เกษตรกรทำการเกษตรได้และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ และวันที่ 18 กรกฎาคม 2545 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ เนื้อที่ 1,350 ไร่ ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำไปดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยราชการ สถานศึกษา และราษฎร พร้อมทั้งได้พระราชทานนามศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรบ้านกองแหะ ว่า "เกษตรวิชญา"

การพัฒนาด้านแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีดังนี้ ฝายแม่แตง สร้างเมื่อปี 2516 , ฝายชลขันธ์พินิจ (ฝายแม่ปิงเก่า) สร้างเมือ่ปี 2484 , ฝายสินธุกิจปรีชา สร้างเมื่อปี 2479 , เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง สร้างเมื่อปี 2528 และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด สร้างเมื่อปี 2536