นักธุรกิจแนะทางออกปัญหา “OCA” หลังส่อเป็นชนวนสู้รบไทย-กัมพูชา
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Isaras Rattanadilok ) โดยระบุเป็นความเห็นส่วนตัวในนามนักธุรกิจ ว่า
ผลประโยชน์ชาติ เหนือ อื่นใด
สร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้านที่จริงใจ คือ ทางออกของ Asean
บทพิสูจน์นโยบายพรรคการเมืองไทย
ทางออก OCA ไทย & กัมพูชา
บทพิสูจน์ ความจริงใจของนักการเมือง ทั้ง 2 ประเทศ?
จากปัญหาชายแดน ไทย กัมพูชา ที่ผ่านมา และการนำไปสู่ การเข้ามา แทรกแซง ของสหรัฐอเมริกา (USA) ด้วยการใช้มาตรการภาษี Trump กดดันให้หยุดยิงทั้งๆ ที่เรากำลังได้เปรียบทางการทหาร
ทราบว่าเบื้องหลังคือฮุนเซ็น ผิดหวังที่จีน ไม่สนับสนุนอาวุธ ให้มารบกับไทย จึงหันไปติดต่อ ขอความช่วยเหลือจากทั้ง USA และ ฝรั่งเศส
ถามว่าอะไรคือผลประโยชน์ที่กัมพูชาใช้ในการเจรจาต่อรองกับ USA และฝรั่งเศส ?
คาดว่าสำหรับ USA แล้ว นอกเหนือจากเรื่องฐานทัพทางทหาร คิดว่าน่าจะเป็นเรื่อง ขุมทรัพย์จาก อ่าวไทยในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA)
เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า ประเทศใด มีสัมปทานเดิม กับ รัฐบาลกัมพูชาในการ ขุดเจาะ พลังงาน
ดังนั้น การที่ USA จะได้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อ Balance อำนาจกับประเทศจีน จึงเป็นสิ่งที่ คาดเดาได้ไม่ยากเลย
ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่า ประเทศมหาอำนาจคาดหวังอะไร?
เราจึงต้องพยายามวางกรอบในการ เจรจา เรื่อง OCA ดังนี้ ไหม
มิติพลังงาน
จะไม่มีการเดินหน้าใดๆ เรื่อง OCA ตราบที่ผู้นำรัฐบาลกัมพูชายังเป็นตระกูลฮุน และมีการแทรกแซงจากประเทศมหาอำนาจ เช่นนี้
มิติต่างประเทศ
แยกการเจรจา แบ่งปันผลประโยชน์ด้านพลังงาน JDA (สีเขียวอ่อน) ให้เดินหน้า ตามกรอบ MOU44ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ ทั้ง 2 ประเทศ โดยที่ยังไม่ต้องแตะเรื่องการแบ่งพื้นที่ (สีเหลืองอ่อน )ตราบใดที่กัมพูชายังไม่ยอมใช้กติกาสากลของโลก เช่น ขนาดแผนที่ 1 : 50,000
มิติเศรษฐกิจ
ร่วมสร้าง Business Model ด้านพลังงานที่ได้ประโยชน์ ทั้งประชาชน ของ 2 ประเทศ ร่วมกันด้วยสมมุติฐาน คือ เราทราบดีว่ากัมพูชา ต้องนำเข้าพลังงานไฟฟ้ามากกว่าต้องการ NG (ไม่มี Infrastructure และ Supply รองรับ )
ขณะที่ประเทศไทยมีความพร้อม ทั้ง Supply ของโรงไฟฟ้าจาก NG ( ที่เราต้องจ่ายค่าพร้อมจ่าย (AP) โดยแฝงอยู่ ในค่าไฟฟ้า) อีกทั้งเรายังมี infrastructure เช่น ท่อ NG จากแหล่งเอราวัณ (ใกล้ OCA)
,โรงแยก NG และ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่สามารถต่อยอดได้ ด้วยการลงทุนที่น้อยกว่าที่ เรา และ กัมพูชา จะต้องต่างคน ต่างต้องลงทุนซ้ำซ้อน
อันเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแถมยัง เป็นการ เปิดประตู ให้ มหาอำนาจ (ด้านทุน และ เทคโนโลยี่ )เข้าบ้านโดยไม่จำเป็น
เราจึงอาจหา JDA Model ที่ สร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมกัน มากกว่าที่ให้มีการลงทุนซ้ำซ้อน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเป็น มิตรภาพในอาเซียน ร่วมกันท่ามกลางวิกฤติ Geopolitics
มิติการสร้างพลังของ Asean
ไทย กับ เพื่อนบ้าน ที่มีชายแดนติดกัน ( ไทย vs เมียนมาร์ / ไทย vs ลาว) เราต่างก็ต้องพึ่งพากันทางเศรษฐกิจ ( ดูตัวอย่าง JDA ไทย vs มาเลเซีย) เราจำเป็นต้องมีความสงบสุข และ ร่วมมือ กันของชายแดน
โดย KSFs คือการได้รัฐบาลที่ดี จริงใจ และมี CG ของทุกประเทศ มองประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์อื่นใดทั้งของนักการเมือง และนายทุนไหม
มิติการศึกษา และ การสื่อสาร
การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศชายแดน สร้างการรับรู้ให้ประเทศเพื่อนบ้านทราบว่า การมีผลประโยชน์ร่วมกันท่ามกลาง การแบ่งปัน และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างสร้างสรรค์ เป็นธรรมแทนการเป็นเหยื่อของประเทศยักษ์ใหญ่
ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขและความมั่งคั่งของประชาชน ของทั้ง 2 ประเทศมากกว่า ไปอิงกับนักการเมือง และ นายทุนที่มีผลประโยชน์แอบแฝง
“ได้แต่หวังว่าความฝันของผมจะได้นำไปเป็นนโยบายของพรรคการเมืองทั้ง 5 มิติ หรือตามแต่ที่เห็นควรเพื่อให้ประชาชนของเราและประเทศเพื่อนบ้านจะได้จับมือเดินหน้า สร้างพลังของ Asean ต่อไป”