"ภูมิธรรม" ขีดเส้น! ประชุมผู้ว่าฯ-ผกก. 17 ก.ค. ใครไม่มา สั่งย้ายทันที เปิดแผน "ตาสับปะรด" จับตาผู้ค้า-พระ-สีกา พัวพันเงินทอนวัด
ที่โครงการชลประธานศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเพื่อมอบนโยบายการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจัดประชุมที่โครงการชลประทานศรีสะเกษ พร้อมผู้บริหารระดับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
นายภูมิธรรมกล่าวย้ำว่า ปัญหายาเสพติดเป็นวิกฤติระดับชาติที่กระทบต่อชีวิต เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ พร้อมระบุว่า ตนได้สั่งการให้มีการประชุมร่วมระหว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการตำรวจทั่วประเทศในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ โดยย้ำชัดว่า “ใครไม่เข้าร่วม จะมีคำสั่งย้ายทันที” เว้นแต่มีเหตุป่วยร้ายแรง
"ถ้าประชาชนรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ แปลว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนร่วม หรือเพิกเฉย ต้องรับผิดชอบ" นายภูมิธรรม กล่าว
ยก “ยาเสพติด” เป็นวาระแห่งชาติ – ลุยตั้งเครือข่าย “ตาสับปะรด”
รองนายกฯ กล่าวถึงแนวทางใหม่ โดยจะเร่งตั้งเครือข่าย “ตาสับปะรด” และผลักดันบทบาท ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่มีจำนวนกว่า 6-7 แสนคนทั่วประเทศให้มีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ พร้อมจัดระบบการ “เอกซเรย์” ทุกหมู่บ้าน ค้นหาผู้ค้ายารายย่อย และขุดรากเครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลัง
เขายังเตือนเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ว่า “จะถูกดำเนินการโดยไม่ละเว้น” รวมถึงสถานบันเทิงผิดกฎหมายและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
เตรียมหมายจับ “พระ-สีกา” คดีเงิน – ระบุ “ไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่มีส่วนร่วม”
นายภูมิธรรมยังระบุถึงประเด็นพระสงฆ์ที่กระทำผิดกฎหมายว่า ปัจจุบันไม่ใช่เพียงจับสึก แต่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่า วันที่ 17 ก.ค.นี้จะเริ่มกระบวนการจับกุมสีกา ที่มีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับการทุจริตทางการเงิน พร้อมย้ำว่า “พระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่เป็นผู้ร่วมกระทำผิด”
ย้ำ 3 เดือนต้องเห็นผล – ขู่ย้ายทันทีหากไม่ขานรับนโยบาย
ภูมิธรรมย้ำว่าภายใน 2-3 เดือนหลังจากนี้ ต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยฝากถึงผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า ต้องแสดงผลงานอย่างจริงจัง
"ไม่เกลียดใคร แต่หากไม่ทำงาน ก็ต้องย้าย เพราะนี่คือเรื่องของความสงบในบ้านเมือง" – ภูมิธรรม
เขายังเปิดเผยว่า กำลังดำเนินการยกเลิกการใช้กัญชาและพืชกระท่อมในบางกรณี หลังพบปัญหาการลักลอบส่งออก และมีนักการเมือง-นักธุรกิจเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ จนกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ