สหรัฐฯ เปิดเอกสารข้อเท็จจริง แจงที่มาขึ้นภาษี รวมทั้งไทย หลังมีผล ส.ค.นี้
ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยข้อเท็จจริง หลังประกาศการบังคับใช้ภาษีตอบโต้ มีผล 1 ส.ค.นี้ หลายชาติปรับลดอัตราภาษีลง แต่ 14 ประเทศ รวมถึงไทย เผชิญภาษีที่สูงขึ้นกว่าเดิม
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เคลื่อนไหวอย่างเป็นรูปธรรมในนโยบายภาษีครั้งใหญ่ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารขยายเส้นตายการบังคับใช้ภาษีออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2568 พร้อมกันนี้ ทำเนียบขาวได้ยืนยันว่าได้เริ่มส่งจดหมายไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อแจ้ง อัตราภาษีต่างตอบแทน ใหม่แล้ว
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับจดหมาย และถูกกำหนดอัตราภาษีไว้สูงถึง 36% การประกาศอย่างเป็นทางการนี้ถือเป็นการยุติช่วงเวลาแห่งการเจรจา และเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะบังคับใช้กำแพงภาษีอย่างจริงจังกับประเทศที่ไม่มีข้อตกลงทางการค้า
เปิดรายชื่อประเทศรอบแรก ไทย-กัมพูชา โดน 36%
เอกสารข้อเท็จจริง จากทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เริ่มส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ไปยังหลายประเทศแล้ว โดยอัตราภาษีดังกล่าวอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงกว่าที่เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ขึ้นอยู่กับสถานะการเจรจาและข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เสนอต่อประธานาธิบดี
สำหรับรายชื่อประเทศที่ได้รับจดหมายในรอบแรกนี้ ประกอบด้วย
- ไทย (36%)
- กัมพูชา (36%)
- อินโดนีเซีย (32%)
- บังกลาเทศ (35%)
- มาเลเซีย (25%)
- เมียนมา (40%)
- ลาว (40%)
- ญี่ปุ่น (25%)
- เกาหลีใต้ (25%)
- แอฟริกาใต้ (30%)
- คาซัคสถาน (25%)
- ตูนิเซีย (25%)
- บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (30%)
- เซอร์เบีย (35%)
ทำเนียบขาวระบุว่า คำสั่งล่าสุดนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการ ทวงคืนอธิปไตยทางเศรษฐกิจของอเมริกา โดย จัดการกับความสัมพันธ์ทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมซึ่งคุกคามความมั่นคงทางเศรษฐกิจและของชาติ และจากเอกสาร ระบุว่าทรัมป์ว่าเป็น นักเจรจาการค้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และชี้ว่าประเทศที่ไม่จริงจังในการแก้ไขกำแพงภาษีที่ขัดขวางสินค้าส่งออกของอเมริกา และทำร้ายแรงงาน เกษตรกร และธุรกิจของอเมริกัน กำลังเผชิญกับผลที่ตามมา
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยังคงเปิดช่องทางเลือกไว้ โดยระบุว่า จะไม่มีการเก็บภาษี หากประเทศเหล่านั้นตัดสินใจที่จะสร้างหรือผลิตสินค้าในประเทศของเรา ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐอเมริกา
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
การกำหนดอัตราภาษีสูงถึง 36% ต่อสินค้าจากประเทศไทย ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ต่อภาคการส่งออกของไทย เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด หากกำแพงภาษีนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมจริง จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม และอาจทำให้ราคาสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป
ที่มา: The White House
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง