โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อสังหาริมทรัพย์

วิกฤตคอนโดล้นตลาด ดีเวลลอปเปอร์ชะลอเปิดใหม่ เร่งระบายสต็อก

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมของประเทศไทยในช่วงปี 2567 ต่อเนื่องถึงกลางปี 2568 เผชิญกับความท้าทายอย่างหนักจากภาวะอุปทานส่วนเกิน โดยเฉพาะในทำเลหลักและแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นผลมาจากอุปทานสะสมในช่วงก่อนหน้าที่มีจำนวนมาก ประกอบกับกำลังซื้อที่ชะลอตัวและปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของกลุ่มผู้ซื้อบางส่วน ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับวิกฤตสต็อกคอนโดมิเนียมคงค้าง

จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 (ข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดย REIC ที่สอดคล้องกับกรอบเวลาของข่าว) ปริมาณคอนโดมิเนียมเหลือขายในตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มราคาที่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงในภาวะปกติ แต่กลับสะสมหน่วยเหลือขายจำนวนมากในปัจจุบัน

ส่วนทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ปลายสายบางใหญ่) ถือเป็นโซนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีปริมาณคอนโดมิเนียมคงค้างจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากการเปิดโครงการจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อที่ไม่ได้เติบโตตามเป้าหมาย ทำให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาดในพื้นที่ดังกล่าว

สำหรับในด้านกลุ่มราคา REIC ระบุว่า คอนโดมิเนียมในกลุ่มราคา 2.01-3 ล้านบาท และ 3.01-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีหน่วยเหลือขายสูงสุด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทที่เผชิญกับภาวะล้นตลาดอย่างหนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เข้าถึงสินเชื่อยากขึ้นสำหรับผู้ซื้อบางส่วน และยังคงมีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า

สถานการณ์อุปทานส่วนเกินส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องทบทวนแผนการลงทุนและชะลอการเปิดโครงการใหม่ลงอย่างมีนัยสำคัญ จากการวิเคราะห์ของ Economic Intelligence Center (EIC) โดยธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB. EIC ที่เผยแพร่ข้อมูล คาดการณ์ว่าหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2568 มีแนวโน้มหดตัวราว 9% ถึง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยผู้ประกอบการยังคงเน้นการเปิดโครงการในกลุ่มระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย

สอดคล้องกับภาพรวมที่น่าจับตาในครึ่งแรกของปี 2568 เมื่อ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานว่า การเปิดโครงการใหม่ในภาพรวม (รวมบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม) ในครึ่งแรกของปีนี้ลดลงถึง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นสถิติที่ ต่ำสุดในรอบ 23 ปี และสำหรับคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะ REIC คาดการณ์ว่า จะมีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ ประมาณ 20,000-23,000 ยูนิตในปี 2568 ซึ่งสะท้อนการชะลอตัวอย่างชัดเจนของผู้ประกอบการ

จะเห็นได้ว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 อุปทานคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปี สะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังของผู้ประกอบการที่ต้องการเร่งระบายสต็อกเดิมที่มีอยู่ก่อน แทนที่จะเพิ่มอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาด

ทำให้ภาพรวมการเปิดโครงการใหม่ใน 6 เดือนแรกของปี 2568 ภาพรวมการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งแรกของปี 2568 หดตัวแรง โดยมีจำนวนหน่วยเปิดใหม่ต่ำสุดในรอบ 23 ปี เมื่อเทียบย้อนไปถึงยุคต้มยำกุ้ง สะท้อนให้เห็นถึงภาวะที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทายในรอบหลายสิบปี

เพื่อเร่งระบายสต็อกคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างงัดกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายมาใช้ จากการสังเกตการณ์ตลาดและข้อมูลที่เผยแพร่โดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาด พบว่ามีการนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย อาทิ การเสนอส่วนลดเงินสดพิเศษ, ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์, แพ็กเกจของแถมและเฟอร์นิเจอร์, รวมถึงการร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือแพ็คเกจสินเชื่อพิเศษ

ตลาดคอนโดเข้าสู่ยุคปรับสมดุล

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ยังได้เปิดเผยว่า สถานการณ์คอนโดมิเนียมล้นตลาดเป็นผลจากอุปทานสะสมที่สูงและการชะลอตัวของกำลังซื้อ ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อรักษาสภาพคล่องและระบายสต็อก การลดการเปิดโครงการใหม่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสมดุลของตลาดในระยะยาว

ขณะเดียวกัน SCB EIC ชี้ว่า การชะลอตัวของตลาดคอนโดมิเนียมจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังคงเผชิญความท้าทายในปี 2568 และอาจต่อเนื่องไปถึงปี 2569 ผู้ประกอบการที่มีสภาพคล่องและมีเงินทุนเพียงพอเท่านั้นที่จะสามารถประคองตัวผ่านวิกฤตนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม การลดการเปิดโครงการใหม่และการเร่งระบายสต็อกถือเป็นสัญญาณที่ดีในการปรับสมดุลตลาด ผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและนำเสนอยูนิตที่ตรงกับความต้องการของตลาดในราคาที่เหมาะสม จะเป็นผู้ที่สามารถฟื้นตัวได้ก่อน เมื่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

“ศรีสะเกษ” สั่งนายอำเภอ คุมเข้มแจกของบริจาคชายแดนเท่าเทียม

35 นาทีที่แล้ว

กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัครชายไทยทำงานเกาหลีใต้ 1,000 คน

36 นาทีที่แล้ว

เปิด 'ทรูวิชั่นส์ นาว' โฉมใหม่ ขยายฐานลูกค้าสตรีมมิ่ง แพ็กเกจเริ่มต้น 99 บาท

48 นาทีที่แล้ว

อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ปชช.เครียดสูง เสี่ยงฆ่าตัวตายพุ่ง

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ

ส่งสัญญาณ! โอกาสทองนิคมฯไทย โรงงานย้ายฐาน คลังสินค้าใหม่ผุดลงทุน

ฐานเศรษฐกิจ

“ปรีดา เรียลเอสเตส” พลิกโฉมตลาดสำนักงานให้เช่า ดัน “โซลเลซ พหลฯ–ประดิพัทธ์” สำนักงานหรูใจกลาง New CBD ราคาเริ่ม 700 บาท/ตร.ม.

สยามรัฐ

ใช้ชีวิตเชื่อมติดทุกจังหวะเมืองที่ BEAT POP Ratchada-Kaset

TERRABKK

TOA คว้าอันดับ 1 แบรนด์ที่ทำผลงานบนโซเชียลมีเดียสูงสุดในกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ม.ค.-มิ.ย.68 โดย Thailand Social Awards

สยามรัฐ

MQDC จับมือรพ. กรุงเทพเสริมแกร่งสุขภาพลูกบ้านทุกโครงการ

กรุงเทพธุรกิจ

4 เหตุผลดีลใหญ่ออริจิ้น –เดลต้า ซื้อบิ๊กล็อตคอนโดโซนนิคมบางปู

กรุงเทพธุรกิจ

บราโว บีเคเค เล็งร่วมทุนปั้นโรงแรมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เสริมพลัง

กรุงเทพธุรกิจ

แอสเซทไวส์แข็งแกร่ง ปี’68-69 พอร์ตภูเก็ตอุ้มรายได้ Peak 2 ปีติดต่อกัน

ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...