ระเบิดเวลา “อิ๊งค์2” Vs อำนาจ “นายกอ้วน” ยุบสภา?
ในขณะที่สถานการณ์การเมืองโหมด “การบ้าน”การบริหารราชการแผ่นดินของ “รัฐบาลอิ๊งค์2” ถูกจับตา2วิกฤติอันตรายจากภายนอก 2 ปม ศึกเขมรและภาษีทรัมป์ที่ “ทีมไทยแลนด์” เจรจารอบแรกเหลว จะ เดดไลน์อีก 2 วัน 9 ก.ค. ในขณะที่รัฐบาล ที่มีนายกรักษาการ ชื่อ “พี่อ้วน ภูมิธรรม เวชชยชัย” แทนที่ “อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” รมว.วัฒนธรรม
แม้จะมีศูนย์อำนาจการคอนโทรลจากผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทยอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ก็ถูกมองว่าไม่เต็มที่เพราะต้องพะวงกับคดีพันตัวในช่วง 1-2 เดือนนี้ ทำให้ภาพรวมของ “รัฐบาลอิ๊งค์2” ถูกมองอยู่ในสภาพ “เป็ดง่อย” ทั้งความไม่แน่นอน จากสภาพเสียงปริ่มน้ำในสภา และความไม่มั่นใจจากข้าราชการ รวมถึงภาคลงทุน เหตุเพราะ นายกตัวจริง “อิ๊งค์” อยู่ระหว่างถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งพักงานจนกว่าจะตัดสินถอดถอน ในคดีคลิปเสียงฮุนเซน (1ก.ค.)ต้องส่งคำชี้แจงใน 15 วัน ที่คาดกันว่าจะใช้เวลาคดีราว 45 วัน
กระนั้นก็มีประเด็น ที่หลายฝ่ายกำลังวิเคราะห์ ทางหนีทีไล่ของ รัฐบาลเพื่อไทย ในสภานการณ์ “ทักษิณ-อิ๊งค์” คิดบ่วงนิติสงคราม โดยจับตาผลประทบที่อาจกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ ซ้ำเติมสถานการณ์ จากทั้งการปรับครม. “อิ๊งค์2” และ “มติครม.นัดพิเศษ” 3 ก.ค.ปม อำนาจเต็ม ของรักษาการนายก ในการปรับครม. ยุบสภา เพื่อวางเกมยาวในการถอยสู้ ล้อไปกับไทม์ไลน์การเมือง ที่มีความพยายาม ”ยื้อ” ไปจนถึงต้นปี 2569 แม้สถานบ้านเมืองจะอยู่ในสภาพน่าห่วง
โดย “สัญญาน” นี้ปรากฏร่องรอย สอดรับกับการวิเคราะห์หลายแวดวงรวมถึงความเคลื่อนไหว ของผู้คนในเพื่อไทยและในรัฐบาลรวมถึง “สัญญานเตือน” อาจผิดข้อกฎกมาย จากบางฝ่าย กับแผนดิ้นสู้ ที่ต้องการยื้อทุกอย่างให้ผ่านพ้นเดือน ก.ย.หรือตุลาคม เพื่อให้ “งบประมาณ69” ผ่านสภา รวมถึงผ่านการโยกย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ที่จะเกษียณปลายเดือนก.ย. 68 ที่จะสัมพันธ์ไทม์ไลน์ “คดีอิ๊งค์” ที่คาดว่าอาจ จะรู้ผลคดีถอดถอน อาจเป็นช่วงเดือนก.ย. จากไทม์ไลน์
ตั้งแต่ 1ก.ค.ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ที่ “อิ๊งค์” ต้องยื่นคำแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน คือ 16 ก.ค. ที่ขั้นตอนยังอาจมีการขอเลื่อนได้ 1 ครั้ง 15 วันคือ 31ก.ค.ที่หลังจากนั้น ศาลรธน.จะส่ง “คำแก้ข้อกล่าวหา” ให้ 36 สว.พิจารณาคำหักล้าง และ 36สว.ต้องยื่นหักล้างภายใน 15 วัน คือ 16 ส.ค. เมื่อ 36 สว.ยื่นคำหักล้างให้ศาลแล้ว ศาลจะส่งคำหักล้างให้ อิ๊งค์ ที่ยังมีโอกาส ที่จะยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีก 1 ครั้ง จากนั้น ศาลรธน.ทอดเวลาก่อนลงมติอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งก็หมายถึงอย่างเร็วสุด 31ส.ค.ที่ถูกมองว่า คำวินิจฉัยอาจออกมาอย่างเร็ว ในเดือนก.ย.
โดย หาก ”อิ๊งค์” ถูกถอดถอน ครม.ชุดนี้ ก็ต้องสิ้นสภาพทั้งครม. แต่ขั้นตอนระหว่างรอการโหวต “นายกคนใหม่” ทำให้ ต้องให้มี ครม.รักษาการไปก่อน ซึ่ง “รักษาการนายกฯ” ต้อง รักษาการต่อ
จนกว่า สภาจะโหวตเลือก “นายกคนใหม่” ซึ่ง มีรายงานด้วยว่าแผนดิ้นสู้ ไม่ได้คิดถึง เรื่องที่จะให้ “นายกอิ๊งค์”ลาออกเพื่อจบคดีติดตัว และไม่คิดที่จะมีการโหวต “ชัยเกษม นิติศิริ” แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยที่เหลือ ขึ้นมาเป็น “นายกคนต่อไป” เพราะ มีความเสี่ยง จากสภาพปริ่มน้ำในสภา ยิ่งในสภาพ “ทักษิณ-อิ๊งค์” ที่คดีอาจปรากฏผลแล้ว ยิ่งอันตรายต่อการถูกพลิกเกมชิง ”นายกฯ”
ดังนั้นจึงต้องมาแนว “ยุบสภา” ที่อย่างน้อยยังเป็นรัฐบาลรักษาการ ได้อีกระยะ อันเป็นที่มาของการที่ผู้คนในเพื่อไทยพูดถึงอำนาจของ “นายกรักษาการ” ว่ามีอำนาจเต็มเหมือนนายกฯ ที่ก่อนหน้านี้มีการอ้างอิงไปถึงความเห็นของ “อ.วิษณุ เครืองาม” ล่าสุด ที่ยืนยันความเห็นที่เคยระบุไว้สมัย “รัฐบาลลุงตู่”
ที่แผนดังกล่าวถูกเชื่อมต่อกับการประชุมครม.นัดพิเศษที่ตั้ง “พี่อ้วน ภูมิธรรม” เป็นรักษาการนายกฯ ที่ ครม.มีมติ ปม “อำนาจรักษาการนายกฯ” ออกมา ที่ปรากฏร่องรอยออกมาว่า ไม่มีการบันทึกความเห็น ของ “เลขากฤษฎีกา” “ปกรณ์ นิลประพันธ์”ที่ ให้ความเห็นไว้ว่า “นายกฯรักษาการ” ไม่น่าจะปรับครม. ยุบสภาได้ ที่เรื่องนี้ถูกมองว่าอาจกลายเป็น “ระเบิดเวลา” อีกลูกหนึ่งของรัฐบาล
ที่ฝ่ายตรงข้ามอาจนำไปขยายผลเล่นงานรัฐบาล อย่างที่เริ่มเห็นมีการออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ รวมถึงมีการพูดถึง การโพสFBส่วนตัวของ “ปกรณ์” ในบัญชีชื่อ “Alex Pakorn” ที่ยืนยันถึงหลักการในเรื่องนี้
ขณะที่ “รักษาการนายกฯอ้วน-ภูมิธรรม” ก็ ยอมรับว่า “เลขาฯกฤษฎีกา” มีการแจง ครม. อำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาไม่ได้ แต่ก็ เป็นแค่ความเห็น เช่นเดียวกับมุมมองกฎหมายของ ‘วิษณุ’ ยืนยัน รัฐบาล ยังไม่ยึดแนวทางไหน เพราะเหตุยังไม่เกิด หวั่นจะสร้างความไม่มั่นใจ โดยเมื่อถามว่าจะใช้อำนาจยุบสภาหรือไม่ “นายกอ้วน”บอกว่า จะใช้อำนาจอะไร ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองแต่ละช่วง ในเมื่อยังไม่ถึงสถานการณ์จะไปนั่งคิดทำไม วันนี้ไม่ใช่เวลานั่งคิดว่าเราจะอยู่หรือเราจะไป วันนี้ต้องมานั่งคิดว่าจะทำงานให้เต็มที่ได้อย่างไร เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานทั้งหมด
ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำให้เกิดความไม่แน่นอน ไปสร้างความไม่มั่นใจอะไรต่างๆ ปัญหาที่ยังไม่เกิดเรายังไม่ควรถาม ควรจะถามในปัญหา ที่คิดว่าสำคัญว่าทำต่อไปอย่างไร และยังไม่รู้ว่าเรื่องจะออกบวกหรือลบอย่างไร ไม่ควรมาคิดเรื่องลบอย่างเดียว.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews