ทภ.2 ยัน "ชายแดนไทย-กัมพูชา" ไร้เหตุปะทะ เคลียร์ระเบิดแล้ว 48 จุด
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ เวลา 14:00 น.ยืนยันสถานการณ์โดยรวมกลับสู่ภาวะปกติ ไม่มีการปะทะเกิดขึ้น
ขณะที่ภารกิจหลักมุ่งเน้นไปที่การสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ การดูแลผู้อพยพ และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ
สถานการณ์โดยรวม: ยังคงวางกำลัง-ไร้เหตุปะทะ
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มีเหตุการณ์สู้รบหรือการปะทะเกิดขึ้น
ฝ่ายไทยยังคงวางกำลังทหารตามแนวพื้นที่ปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิดและการปฏิบัติต่อเชลยศึก
หนึ่งในภารกิจสำคัญคือการทำให้พื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน โดยได้จัด ชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบและทำลายวัตถุระเบิดที่ยังคงตกค้างในพื้นที่ต่างๆ
ทำลายแล้ว: 48 พื้นที่
คงเหลือ: 59 พื้นที่
นอกจากนี้ ในวันนี้ (5 ส.ค.) กองทัพภาคที่ 2 ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าสังเกตการณ์กระบวนการปฏิบัติต่อเชลยศึก
ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด
การดูแลผู้อพยพกว่า 6.9 หมื่นคน
ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยังคงร่วมมือกันให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อพยพมายังพื้นที่รวบรวมพลเรือน 356 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน โดยมียอดผู้อพยพรวมทั้งสิ้น 69,338 คน
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทางฝ่ายปกครองได้จัด ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพอย่างต่อเนื่อง
น้ำใจจิตอาสาพระราชทาน
ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอ.จอส.พระราชทาน) ภาค 2 ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้:
มอบบ้านแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต: เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ได้มีพิธีมอบบ้านให้แก่ครอบครัวของ ส.ต.ธีรยุทธ กระจ่างทอง กำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าว ณ จังหวัดบุรีรัมย์
โรงครัวพระราชทาน: จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน 15 แห่ง ใน 4 จังหวัดชายแดน เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงผู้อพยพ โดยมียอดอาหารพระราชทานที่แจกจ่ายไปแล้วถึง 425,093 กล่อง
กำลังพลจิตอาสา: กำลังพลจิตอาสาพระราชทานจำนวน 3,047 นาย ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง: ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก ได้จัดชุดสัตวแพทย์จิตอาสาเคลื่อนที่ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความมีน้ำใจของคนไทยในยามวิกฤต และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคน